วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี Transportation Sector - เดินหน้าต่อไป
เราชอบกลุ่มขนส่งทางบกเพราะกำลังเปลี่ยนผ่านจากช่วงของการฟื้นตัวไปสู่ช่วงของการเติบโต จากปริมาณการเดินทางที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของรถไฟฟ้า เราเลือก BEM เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้
โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 11.50 บาท ทั้งนี้ ผลประกอบการของ BEM จะไม่ได้รับผลกระทบจากรถไฟฟ้าสายสีส้ม และราคาเป้าหมายมี downside 10% เราคิดว่าผลประกอบการใน 2Q23 ในสวนกระแสเพราะจะได้รับรายได้เงินปันผลจากบริษัทร่วม ส่วนราคาหุ้น BTS แม้จะถูกแต่ขาดปัจจัยกระตุ้น
BEM เป็นหุ้นที่ทำธุรกิจรถไฟฟ้า และทางด่วนล้วน ๆ
ในงวด 1Q23 กำไรจากธุรกิจหลักของบริษัทในกลุ่มขนส่งทางบก (BEM และ BTS) อยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท (+33% yoy และ +2% qoq) ซึ่งส่วนใหญ่มาจาก BEM โดยกำไรของ BEM เพิ่มขึ้นถึง 123% yoy และ 24% qoq เนื่องจากปริมาณการเดินทางเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของทางด่วนและรถไฟฟ้า ส่วนกำไรของของ BTS ลดลงอย่างมากทั้ง yoy (-26%) และ qoq (-25%) (เป็นงวด 4Q23 ของ BTS) เพราะถูกฉุดโดยผลประกอบการของบริษัทย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง VGI ซึ่งหากพิจารณาเฉพาะธุรกิจรถไฟฟ้า พบว่ากำไรเพิ่มขึ้น 6% yoy และ 13% qoq โดยได้รับส่วนแบ่งกำไรจาก BTSGIF เพิ่มขึ้น
แนวโน้มผลประกอบการ 2Q23 ของ BEM เมื่อเทียบ qoq แล้วดีกว่า BTS
สำหรับแนวโน้มใน 2Q23 คาดว่าปริมาณการเดินทางทั้งในส่วนของระบบทางด่วนและรไฟฟ้าจะต่ำตามปัจจัยฤดูกาลเพราะเดือนเมษายน และพฤษภาคมเป็นช่วงปิดเทอม ดังนั้น เราจึงคาดว่าผลประกอบการของทั้ง BEM และ BTS จะแผ่วลง qoq แต่ถึงอย่างนั้น เรายังคาดว่า BEM น่าจะสวนกระแส โดยคาดว่ากำไรจะยังเพิ่มขึ้น qoq เพราะจะเป็นไตรมาสที่ BEM ได้รับรายได้เงินปันผลจากบริษัทร่วม (TTW และCKP)
เราเลือก BEM เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มนี้ (ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท)
เราแนะนำ ซื้อ BEM (ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท) และ BTS (ราคาเป้าหมาย 9.46 บาท) แต่เนื่องจากยังมีความเสี่ยงเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ของทางการ และแนวโน้มผลประกอบการ เราจึงมองว่า BEM ปลอดภัยมากกว่า BTS ทั้งนี้ ต่อให้ BEM ไม่ได้เซ็นสัญญาโครงการสายสีส้ม ราคาเป้าหมายของเราจะลดลงเพียง 1 บาท (หรือ 10%) เท่านั้น ในขณะที่กำไรยังคงอยู่ในขาขึ้น ในทางกลับกัน ผลประกอบการของ BTS ยังคงถูกกดดันจากกรณีพิพาทกับหน่วยงานของทางการที่ยังไม่ได้ข้อสรุป และแนวโน้มผลประกอบการที่ไม่สดใสจากบริษัทย่อยอย่าง VGI