วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี SFLEX - ผนึกพันธมิตรที่แข็งแกร่งผ่านการลงทุนใหม่

โดยคาดว่าธุรกรรมนี้จะเสร็จเรียบร้อยภายใน 3Q23 ทั้งนี้ ในปี 2022 รายได้ของ SPV อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท และ กำไรสุทธิอยู่ที่ 135 ล้านบาท ซึ่งหาก SPV ไม่มีการเติบโตเลยในปี 2024 SFLEX จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรอย่างน้อย 34 ล้านบาทในปีหน้า

 

การจับมือกับ TU จะช่วยหนุนการเติบโตในปี 2025

SFLEX และ Thai Union Group (TU TB, NR) มีแผนจะตั้ง JV ใหม่ Star Union โดยมีสัดส่วนการลงทุน 51:49 เพื่อตั้งโรงงานผลิต และจำหน่าย flexible packaging ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กับผลิตภัณฑ์ของ TU ทั้งนี้ SFLEX คาดว่าพอร์ตของ TU จะมีมูลค่าปีละประมาณ 2 พันล้านบาท  โดยบริษัทคาดว่าจะได้รับคำสั่งซื้อจาก TU ประมาณ 400 ล้านบาทในช่วงที่เริ่มทำการผลิต เรามองว่าความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของ SFLEX ในปี 2025 เพราะคาดว่าโรงงานจะเริ่มทำการผลิตแบบ mass production ได้ใน 3Q24

 

GPM กลับมาอยู่ระดับปกติแล้ว

ปี 2022 เป็นหนึ่งในปีที่แย่ที่สุดของบริษัท เพราะวัตถุดิบแพงขึ้นทำให้ทั้ง GPM และ กำไรสุทธิของ SFLEX ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รับบทเรียนแล้ว และเริ่มหาวิธีเพิ่ม GPM ด้วยการ (i) ตุนสต็อกวัตถุดิบไปจนถึง 1Q24 (ii) มองหาสินค้าที่มี margin สูงอย่างเช่น บรรจุภัณฑ์ของเวชภัณฑ์ ดังนั้น บริษัทจึงสามารถดัน GPM กลับไปอยู่ระดับปกติได้ที่ 20.5% ใน 1Q23 จาก 12.6% ในปี 2022 ทั้งนี้ ผู้บริหารคาดว่า GPM น่าจะยืนเหนือระดับ 20% ได้ตลอดปีนี้

กำไรมีแนวโน้มแข็งแกร่ง

เรามองบวกกับแนวโน้มของ SFLEX ซึ่งจากการลงทุนใหม่และการผนึกพันธมิตร รวมถึง GPM ที่ดีขึ้นทำให้เราคาดว่ากำไรของ SFLEX จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอีกสามปีข้างหน้า โดยบริษัทมีแผนจะสร้างการเติบโตทั้งแบบ organic และ inorganic ในระยะต่อไป 

 

 

Action/ Recommendation 

Bloomberg consensus คาดว่ากำไรของ SFLEX จะโตถึง 131% เป็น 187 ล้านบาท ในปี 2023 และโต 20% เป็น 224 ล้านบาทในปี 2024 ทั้งนี้ ในปัจจุบันหุ้น SFLEX ซื้อขายที่ระดับ PE ที่ 19x (ค่าเฉลี่ย -1 S.D.) ต่ำกว่าช่วงปี 2020-2021 ซึ่งอยู่ที่กว่า 30x