วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (20 ก.ค. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังนักลงทุนเทขายทำกำไรจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นในระหว่างวัน
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นในระหว่างวันจากความหวังการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยสกัดแรงซื้อสัญญาน้ำมันดิบ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับเพิ่มขึ้น 0.34% มาที่ระดับ 100.3
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 14 ก.ค. 66 ปรับตัวลดลง 0.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 457.4 ล้านบาร์เรล ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.4 ล้านบาร์เรล
- นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. 66 ซึ่งอาจจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายของปีนี้ ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. 67
+ กระทรวงพลังงานของรัสเซีย เปิดเผยว่ารัสเซียตั้งเป้าที่จะลดการส่งออกน้ำมันลง 2.1 ล้านตัน ในไตรมาสที่ 3 ของปี 66 ซึ่งสอดคล้องกับการประกาศแผนการลดการส่งออก 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ส.ค. 66
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังคาดการณ์การส่งออกน้ำมันเบนซินของซาอุดีอาระเบียจะปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปสงค์น้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ยังคงปรับเพิ่ม ท่ามกลางอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการส่งออกน้ำมันดีเซลของเกาหลีใต้คาดว่าจะลดลงต่อเนื่องไปจนถึงเดือน ส.ค. 66 เนื่องจากโรงกลั่นในเกาหลีใต้ได้มีการจัดสรรน้ำมันดีเซลไปใช้ในตลาดภายในประเทศ