วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ KTB ผลประกอบการ 2Q66: กำไรยังแข็งแกร่ง
กำไรสุทธิของ KTB ใน 2Q66 อยู่ที่ 1.0 หมื่นล้านบาท (+1% QoQ, +22% YoY) เป็นไปตาม consensus แต่ดีกว่าประมาณการของเรา 10% เนื่องจาก NIM เพิ่มขึ้นมากกว่าที่เราคาดไว้
ในขณะที่กำไร 1H66 อยู่ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท (+13%) โดยกำไรสุทธิในงวด 1H66 คิดเป็น 54% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา
สินเชื่อยังอ่อนแอ แต่ NIM ที่ดีขึ้นช่วยหนุน NII
สินเชื่อหดตัวลง -0.5% QoQ และ YTD และ -2% YoY โดยสินเชื่อลดลงแทบทุกกลุ่ม ยกเว้นสินเชื่อผู้บริโภค (44% ของสินเชื่อรวม) ที่ยังขยายตัว +1% QoQ และ +6% YoY จากสินเชื่อ P-Loan และสินเชื่อบัตรเครดิต ในขณะเดียวกัน สินเชื่อภาครัฐ (16% ของสินเชื่อรวม) ยังลดลงอีก -3% QoQ และ -27% YoY อย่างไรก็ตาม NIM ดีขึ้นอย่างน่าประทับใจถึง +25% QoQ และ +60bps YoY ช่วยหนุนให้ NII เพิ่มขึ้น+8% QoQ และ +24% YoY ใน 2Q66 และ +24% ในงวด 1H66
รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง และต่ำกว่าที่คาดไว้
เนื่องจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนอ่อนแอ โดยเฉพาะค่าธรรมเนียม AM ดังนั้น รายได้ค่าจากธรรมเนียม และการให้บริการจึงลดลง -7% QoQ และ -2% YoY ใน 2Q66 และทรงตัว YoY ในงวด 1H66
NPL ลดลงเล็กน้อย แต่สำรองฯส่วนเกินน้อยลง
ตัวเลข NPL ลดลงเล็กน้อย 4% QoQ และ 5% YoY แต่สัดส่วน NPL coverage ลดลงเล็กน้อยเหลือ 171%ใน 2Q66 (จาก 176% ใน 1Q66) ทั้งนี้ เนื่องจากคชจ.สำรองฯ (credit cost) แทบไม่เปลี่ยนแปลง QoQ ดังนั้น NPL ที่ลดลงจึงอาจจะเป็นเพราะการแก้หนี้เสียโดยการ write-off และขาย NPL ออกไปใน 2Q66
Valuation & Action
ถึงแม้ว่ากำไรสุทธิในงวด 1H66 จะคิดเป็น 54% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา แต่สัดส่วนต้นทุน/รายได้ที่ต่ำเกินไปที่ 39% ในงวด 1H66 (KTB ตั้งเป้าไว้ที่ 40 กลาง ๆ) อาจจะทำให้ opex สูงใน 2H66ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการกำไรปี 2566 เอาไว้เท่าเดิม โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2566F เอาไว้ที่ 22 บาท และคงคำแนะนำ ถือ KTB
Risks
ผลขาดทุน FVTPL , NPL เพิ่มขึ้นทำให้ต้องกำหนด credit cost เพิ่มขึ้น