วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (11 ส.ค. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังตลาดกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังจีนเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแออย่างต่อเนื่อง รวมถึงมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคอย่างดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ปรับตัวลง 0.3% ในเดือน ก.ค. 66 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 64 ส่งสัญญาณว่าจีนมีความเสี่ยงด้านภาวะเงินฝืด และกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันในจีน
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดน้ำมันลดลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบจะมีมูลค่าสูงขึ้น
-/+ นักลงทุนยังคงเทขายทำกำไร หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัว หลังกลุ่มโอเปคพลัสมีมติปรับลดกำลังการผลิตรวม 3.66 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นปี 2567 ประกอบกับรัสเซียที่จะลดการส่งออกน้ำมันจำนวน 300,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน ก.ย. 66
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังน้ำมันเบนซินคงคลังในสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ท่ามกลางอุปสงค์จากอินเดียที่เริ่มชะลอตัวในช่วงมรสุม
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในไต้หวันปรับลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในประเทศ อย่าไรก็ตาม จีนมีแนวโน้มส่งออกน้ำมันดีเซลสู่ตลาดมากขึ้นเนื่องจากอุปสงค์ในประเทศยังคงทรงตัว