วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก เคาะวันโหวตนายกรัฐมนตรี
วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ดัชนีลดช่วงลบในภาคบ่าย หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องปมเสนอชื่อโหวตนายกรัฐมนตรีซ้ำไว้วินิจฉัย ต่อมาประธานรัฐสภา เคาะวันโหวตนายกรัฐมนตรี รอบ 3 เป็นวันที่ 22 สิงหาคม 2566
แรงซื้อนำโดยหุ้นในกลุ่มค้าปลีก อสังหาฯ และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,519.56 จุด -1.17 จุด -0.08% มูลค่าการซื้อขาย 59,403 ลบ. ต่างชาติ -883.96 ลบ. TFEX -19,085 สัญญา ตราสารหนี้ -1,376.89 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 3.9% สู่ระดับ 1.452 ล้านยูนิตในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.448 ล้านยูนิต
+ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% หลังจากลดลง 0.5% ในเดือนมิ.ย.
+ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภานัดประชุมรัฐสภาในวันที่ 22 สิงหาคมเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 180.65 จุด หรือ -0.52% หลังจากรายงานการประชุมของเฟด บ่งชี้ว่า กรรมการเฟดมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ซึ่งส่งผลให้ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.61 ดอลลาร์ -2% ปิดที่ 79.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันในจีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก หลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาด บดบังปัจจัยบวกจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
- เจพีมอร์แกนปรับเพิ่มคาดการณ์การผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทต่าง ๆ ในตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกสาเหตุหลักมาจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่สร้างความกังวลมากขึ้นว่าจะลุกลามไปยังภาคส่วนอื่น ๆ หลังจากการผิดนัดชำระหนี้ของคันทรี การ์เดน (Country Garden) ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน
- ธปท. เปิดเผยว่าในช่วงที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงในปัจจุบัน และความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งมานานแต่ยังไม่มีรัฐบาล สิ่งที่ภาคธุรกิจต้องทำ คือบริหารความเสี่ยงซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ
- ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนก.ค. 2566 อยู่ที่ระดับ 92.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 94.1 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 10 เดือน โดยมีปัจจัยเสี่ยงในประเทศมาจากปัญหาหนี้ครัวเรือน
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ แกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยตลาดยังกังวลเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ประกอบกับมีแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนยังจับตาการโหวตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 ส.ค. อย่างใกล้ชิด กรอบดัชนีในวันนี ที่ 1,510-1,530 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นได้ประโยชน์ราคาน้ำมัน : PTTEP PTT BCP ESSO
• หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : STEC STPI SIRI SC SKY
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาหมูขึ้น : CPF TFG
• FETCO แนะนำกลุ่มท่องเที่ยวและสันทนาการ : ERW CENTEL SPA
• iPhone 15 เปิดตัว ก.ย. : COM7 SPVI CPW SYNEX
• MSCI rebalance มีผล 1 ก.ย. : MSCI Global Standard Index เข้า TTB ออก CBG SAWAD MSCI Small cap index เข้า CBG COM7 ITC PSG SAWAD ออก PTL SINGER S
หุ้นรายงานพิเศษ
CRC (Bloomberg Consensus 51.30 บาท) "ซื้อ"
กำไร 1H66 เติบโต 41%YoY คาด 2H66 เติบโตต่อ
•2Q66 รายได้รวม 6 หมื่นล้านบาท +5%YoY -6%QoQ SSSG +4% จากการเติบโตของยอดขายหมวดแฟชั่น +14% ชดเชยการลดลงของยอดขายหมวดอาหาร (-2%) และหมวดวัสดุ (-2%) กำไรสุทธิ 1,567 ล้านบาท +5%YoY -28%QoQ ต่ำกว่า consensus คาด 21% อัตรากำไรสุทธิ 2.9% core EBITDA margin 12.9%
•1H66 ยอดขายในไทย (สัดส่วน 69%) เติบโต 8%YoY จากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว การเปิดสาขาใหม่ และการปรับปรุงประสิทธิภาพการขายออนไลน์ ยอดขายในเวียดนาม (สัดส่วน 25%) ลดลง 10%YoY จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย ยอดขายในอิตาลี (สัดส่วน 6%) เพิ่มขึ้น 20% จากการเปิดประเทศ กำไรสุทธิ 3,936 ล้านบาท +41%YoY อัตรากำไรสุทธิ 3.2% core EBITDA margin 13%
•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกจากแนวโน้มผลประกอบการ 2H66 คาดจะดีกว่า 1H66 และมีโอกาสสูงสุดใน 4Q66 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่น ทั้งนี้ กำไร 1H66 คิดเป็น 45% ของคาดการณ์กำไรปี 66 โดย Bloomberg Consensus ที่ 8,663 ล้านบาท +21%YoY ขณะที่ราคาหุ้น -16%YTD ซื้อขายที่ P/E 28.71x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 31x ถือว่ามี downside ต่ำและเป็นโอกาสดีในการเข้าซื้อ
หุ้นมีข่าว
(+) ICHI (Bloomberg consensus 15.80 บาท) ยอดขายทะลักไม่หยุด "ตัน" ชี้เกิดจากดีมานด์แท้จริงของตลาด ราคาเข้าถึงได้ และขยายโชวห่วยได้สูง 50-60% วางไลน์ปั๊มกำลังผลิตเพิ่ม พร้อมจ้าง OEM ช่วยผลิต ยอมรับไตรมาส 3-4 กำไรขาขึ้ นจ่อนิวไฮอีก เดินหน้าบูมตันซันซู รสชาติใหม่ ดันมาร์จิ้นอีก ย้ำเป้าหมื่นล้านใน 3 ปี ตัดค่าเสื่อมจะตัดครบพอดี ดันกำไรเด้งอีกปีละ 400 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) NRF (Bloomberg consensus 4.30 บาท) โชว์เพอร์ฟอร์ม Q2/2566 ทำรายได้ 600.9 ล้านบาท พร้อมปรับโครงสร้างครั้งสำคัญเพื่อดันบริษัทลูกเข้า NASDAQ รับแผนบุกตลาดต่างประเทศ ฟากผู้บริหาร "แดน ปฐมวาณิชย์" มั่นใจครึ่งหลังปี 2566 โตแกร่ง รับอานิสงส์เศรษฐกิจโลกฟื้น-ลดต้นทุน SG&A ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เผยโรงงานผลิตอาหารโปรตีนทางเลือกที่อยุธยา เริ่มทดลองการผลิตตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ปูทางก้าวสู่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้านอาหารเอเชียเบอร์ 1 ในยุโรป (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SKY (Bloomberg consensus - บาท) ลั่นครึ่งปีหลัง 2566 ธุรกิจ Aviation Tech-Airport Services โตติดปีก รับอานิสงส์ไฮซีซัน คาดยอดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศแตะ 27 ล้านคน เร่งแผนเดินหน้าขยายธุรกิจที่เกี่ยวกับ Tech Ecosystem พร้อมลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ เสริมความแกร่ง กางงบ 6 เดือนแรกปี 2566 โกยรายได้ 1,762 ล้านบาท โตแกร่ง 39% กำไรสุทธิ 203 ล้านบาท เติบโต 26% หลังรายได้จากโครงการเกี่ยวกับสนามบินโตโดด (ที่มา ทันหุ้น)
(+) OR (Bloomberg consensus 25.50 บาท) ครึ่งปีหลัง 2566 ผลงานดีกว่าครึ่งปีแรก รับราคาน้ำมันขาขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวหนุน น้ำมันอากาศยานดีมานด์เพิ่ม ไตรมาส 4/2566 ไม่มีขาดทุนสต็อก เดินหน้าเพิ่มสาขาปั๊มน้ำมัน และร้าน Cafe Amazon ทุ่ม 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลุยลงทุนกัมพูชา โอกาสเติบโตสูง พร้อมศึกษาขยายธุรกิจ Health and Wellness (ที่มา ทันหุ้น)