วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BGRIM ผู้นำการฟื้นตัวกำไรปี 2566
BGRIM คงเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งเป็น 10GWh ภายในปี 2573 (จากปัจจุบันที่ 4.3GWh ซึ่งเปิดดำเนินการแล้ว 3.7GWh) โดยบริษัทตั้งเป้าสัดส่วน Renewable (RE) เป็น 50% ของกำลังการผลิต(จาก 25% ในปี 2565)
ทั้งนี้ดูเหมือนว่าบริษัทจะปรับพื้นที่เป้าหมายหลักลงทุน โดยเน้นที่เกาหลี รองลงมาคือ เวียดนาม มาเลเซีย ไทย และอื่น ๆ โดยจะใช้เงินทุนที่ 7 หมื่นลบ. คิดเป็นปีละ 9 พันลบ. (8 ปี) จนถึงปี 2573F ซึ่งแหล่งเงินทุนจะมาจากเงินจากการดำเนินงาน 4.5 หมื่นลบ. จากการระดมทุนแบบ hybrid 1.5 หมื่นล้านบาท (พันธบัตร /perp bond/ การขายสินทรัพย์) และอีก 1.0 หมื่นลบ.จากเงินสดในมือ ทั้งนี้ ผู้บริหารยังยืนยันว่าบริษัทไม่จำเป็นที่ต้องเพิ่มทุน ภายใต้ net IBD/E ที่จัดการได้ที่ <2.0x และยังห่างจาก covenant ที่ 3.0x นอกจากนี้การขายหุ้น 25% ใน BPLC1 (140MW) ให้กับ PEA ENCOM เมื่อไม่นานนี้ยัง
จะทำให้บริษัทมีกำไรหลังหักภาษี 500-600 ล้านบาทซึ่งจะบันทึกตรงไปที่ส่วนทุนในงบดุลบริษัท
เกาหลีใต้ – ฐานใหม่ในการสร้างการเติบโต
BGRIM กำหนดให้เกาหลีเป็นเป้าหมายหลักของการลงทุนในปัจจุบัน โดยเกาหลีตั้งเป้าว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าของ RE จะพุ่งขึ้นมาเป็น 73GWh (36.7% ของกำลังการผลิตทั้งประเทศ) จาก 33GWh (22.1%) ในปี 2566F จากกระแส ESG ซึ่งนำโดยบริษัทธุรกิจขนาดใหญ่หลายๆ แห่ง ทั้งนี้ ในปัจจุบัน BGRIM มี 6 โครงการในเกาหลี ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 1,150MW โดยมีทั้งโครงการ solar, พลังงานลมทั้งในและนอกชายฝั่ง (SCOD: 2565-2571) (Figure 1) ซึ่งเราได้รวมในประมาณการแล้ว อย่างไรก็ตามเรามองว่ายังมีความท้าทายอยู่บ้างสำหรับ BGRIM ในการพัฒนาโครงการลมนอกชายฝั่งแบบเดียวกับที่ผู้เล่นอื่นๆ เผชิญอยู่ ขณะเดียวกันราคาไฟฟ้าค่อนข้างผันผวน ขึ้นอยู่กับภาวะอุปสงค์และอุปทานในช่วงนั้น ๆ
ปรับเพิ่มประมาณการกำไร
เราปรับเพิ่มกำไรหลักปีนี้ขึ้นอีก 48% และปี 2567-68F ขึ้นอีก 2-3% เพื่อสะท้อนถึงผลการดำเนินงานของ SPP ที่แข็งแกร่งเกินคาดในงวด 1H66 และสมมติฐานค่า Ft ใหม่ (Figure 2) โดยประมาณการกำไรสุทธิใหม่ปี 2566-2568F ของเราอยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท (+506% YoY) / 2.6 พันล้านบาท (+14% YoY) / 3.2 พันล้านบาท (+19% YoY) ตามลำดับ เรามองว่าแนวโน้มใน 2H66F ดูสดใส HoH โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 3Q66F ซึ่งเราคาดว่าจะเป็นไตรมาสที่กำไรสูงที่สุดในรอบปีนี้ เราคิดว่าปัจจัยหนุนสำคัญ 2H66F คือราคาก๊าซที่ลดลง (~60-70 บาท QoQ) แม้ว่าค่า Ft จลลง และมีโครงการใหม่ ๆ ที่มีกำหนด COD ใน 4Q66w (อู่ตะเภา (เฟส 1 – 68MWe), BGPAT2-3 (196MWe), โรงไฟฟ้า solar สองโครงการในมาเลเซีย)
Valuation & Action
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2567F ที่ 42.00 บาท เรายังเลือก BGRIM เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มสาธารณูปโภคไทยใน 3Q66 ทั้งนี้ บริษัทจะจ่ายเงินปันผลงวด 1H66 ที่ 0.18 บาท/หุ้น (XD วันที่ 28 สิงหาคม) คิดเป็นเงินปันผลที่ 0.5%
Risks
ปิดซ่อมบำรุงนอกแผน, ปัญหา cost overruns, และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย