วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก เฟดมีมติคงดอกเบี้ย
วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงต่ำสุดถึง -20 จุด แรงขายหลักจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ค้าปลีก และไอซีที เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นหลายประเทศ จากแรงขายลดความเสี่ยง ก่อนทราบผลการประชุม FOMC ประกอบกับความกังวลต่อเศรษฐกิจจีน
โดยล่าสุดบริษัทอสังหาฯจีน "ซูแนค ไชน่า โฮลดิ้งส์" ยื่นล้มละลาย ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,507.90 จุด -15.06 จุด -0.99% มูลค่าการซื้อขาย 54,491 ลบ. ต่างชาติ -2,253.45 ลบ. TFEX -30,113 สัญญา ตราสารหนี้ +1,902.52 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองเพิ่มขึ้น 5% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวขึ้น
+ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยว่า EU ยังคงห่างไกลจากการเพิ่มอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากจีน หลังจาก EU เริ่มดำเนินการสอบสวนการจ่ายเงินอุดหนุนรถ EV ของรัฐบาลจีน
+ สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ชะลอตัวสู่ระดับ 6.7% ในเดือนส.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดีดตัวสู่ระดับ 7.0% จากระดับ 6.8% ในเดือนก.ค.
+ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า การจัดเก็บรายได้ของกรมศุลกากรในปีงบประมาณ 66 (ต.ค. 65 - 15 ก.ย.66) จัดเก็บได้ 114,475 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 8,975 ล้านบาท และคาดเมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 66 จะจัดเก็บรายได้ 118,000 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 6 ปี
+/- เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 1 ปีเช้านี้เปิด 36.25 หลัง FED ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 76.85 จุด หรือ -0.22% หลังจากเฟด มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาดในการประชุมครั้งล่าสุด แต่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ เนื่องจากเฟดยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจการต่อสู้กับเงินเฟ้อ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 92 เซนต์ หรือ -1.0% ปิดที่ 90.28 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาดในการประชุมครั้งล่าสุด แต่ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมัน และบดบังปัจจัยบวกจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
- FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ระบุว่า FED ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่กรอบ 5.50%-5.75% ภายในสิ้นปีนี้ และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งสู่ระดับ 5.1% ภายในช่วงสิ้นปี 2567 และแตะ 3.9% ภายในช่วงสิ้นปี 256
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยเฟด มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาดในการประชุมครั้งล่าสุด แต่ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ ขณะที่เม็ดเงิน Fund Flow จากนักลงทุนต่างชาติยังไหลออกต่อเนื่อง กรอบดัชนีในวันนี้ 1,500-1,520 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้น mai ได้ประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว : SPA AU D RP
• ราคาน้ำตาลปรับตัวขึ้น : KBS KSL KTIS BRR
• มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล : TNP KK CPALL CPAXT STEC CK ITD
• ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น : PTTEP PTT BCP TOP
• หุ้นเสียประโยชน์จากลดค่าไฟฟ้า : GPSC BGRIM EA SSP
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากลดค่าไฟฟ้า : CPALL CRC HMPRO
หุ้นรายงานพิเศษ
SC - Bloomberg Consensus 5.10 (upside +23%)
กำไร 1H66 +16%YoY
•1H66 มีกำไรสุทธิ 1,128 ล้านบาท +16%YoY เนื่องจากรายได้ +12%YoY อัตรากำไรขั้นต้นปรับดีขึ้นสู่ 33.2% จาก 32.6% ใน 1H65 และสัดส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อรายได้ทรงตัวที่ 19% ยอดขาย presale 12,246 ล้านบาท +2%YoY โดยคิดเป็น 42% ของเป้าทั้งปีที่ 29,000 ล้านบาท ปลายมิ.ย.66 มี backlog 13,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนโครงการแนวราบ : คอนโดเท่ากับ 53% : 47% โดยมีแผนโอนภายในปีนี้ราว 70% แสดงว่าเป้ารายได้ปีนี้จำนวน 25,000 ล้านบาทมี backlog รองรับแล้ว 75% และมีโอกาสเพิ่มขึ้นจากแผนเปิดขายโครงการใหม่ใน 2H66 อีก 15 โครงการมูลค่ารวม 23,200 ล้านบาท +18%HoH
•พอร์ตรายได้ประจำมีศักยภาพเติบโตและหลากหลายมากขึ้น 1) ธุรกิจให้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงาน 6 อาคารพื้นที่รวมกว่า119,568 ตรม. OR เฉลี่ย 91% 2) ธุรกิจการลงทุน Service Apartment ที่บอสตัน สหรัฐอเมริการวม 3 อาคาร OR 100% และคาดว่าภายในปีนี้จะจบดีลได้เพิ่มอีก 1 อาคาร 3) ธุรกิจโรงแรม ปัจจุบันโรงแรม YANH แถวราชวัตรเปิดบริการแล้วตั้งแต่ มี.ค. 66 OR เฉลี่ย 42% และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีกแห่งที่ซอยสุขุมวิท 29 คาดจะเปิดบริการราวม.ค. 68 และในอนาคต 4) ธุรกิจให้เช่าคลังสินค้า 2 แห่งจ.นครสวรรค์ (เปิดบริการ 4Q66) และเพิ่งจัดซื้อที่ดิน 1 แปลงที่บางพลี
•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่องของผลประกอบการ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 66 เฉลี่ย 2,660 ล้านบาท +4%YoY (กำไร 1H66 คิดเป็น 42%) ราคาหุ้น -6% ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาซื้อขายที่ระดับ P/E 6.5x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 15x ขณะที่ IAA Consensus คาด yield เฉลี่ย 5.1% น่าสนใจลงทุนระยะยาวรับเงินปันผล แนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) SABUY (Bloomberg consensus - บาท) ครึ่งปีหลังโตต่อ มั่นใจปีนี้รายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท เตรียมส่ง SABUY SPEED, บัซซี่บีส์, นครหลวงแคปปิตอล เข้าตลาดหุ้น เผยพร้อมชำะคืนหุ้นกู้ไม่ออกใหม่ทดแทน แย้มมีกองทุนเข้าเจรจาเพียบ รวมถึงกองทุนสหรัฐ ด้าน SBNEXT ลดเป้ารายได้เหลือ 2 พันล้านบาท ยังนิวไฮจากปีก่อน เล็งออกสินค้าต่อยอดโต (ที่มา ทันหุ้น)
(+) GABLE (Bloomberg consensus 7.45 บาท) ส่งซิกครึ่งปีหลังผลงานโตกว่าครึ่งปีแรก มั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้า 5-15% ชู Backlog ปัจจุบัน 4,107 ล้านบาท เตรียมส่งมอบราว 1,939 ล้านบาท จับมือพันธมิตรลุยเทคโนโลยีด้านสุขภาพเพิ่มรายได้ มองรัฐบาลใหม่ออกนโยบายการแจกเงินดิจิทัล หนุนการเติบโตกลุ่มเทค (ที่มา ทันหุ้น)
(+) COCOCO (Bloomberg consensus - บาท) ปักธงรายได้ปี 2566 เติบโต 30% จากปีก่อน ตามออเดอร์จีนทะลัก ล่าสุด ส่งมอบเครื่องจักรใหม่เสิร์ฟโรงงานที่ จ.ราชบุรี และติดตั้ง Test Run ด้านบิ๊กบอส "ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว" ลั่นเดินหน้าตามแผนไอพีโอดันกำลังผลิตใหม่น้ำมะพร้าวเพิ่ม และทยอยส่งมอบเครื่องจักร ขยายกำลังการผลิตเป็น 218,000 ตันต่อปี ในปี 2567 (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SABINA (Bloomberg consensus 30.00 บาท) มีลุ้นยอดขายเมกะแคมเปญ 9.9 ดันผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ดีกว่าเป้า ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมถึงนโยบายฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยว หนุนการจับจ่ายใช้สอยในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี รวมถึงเมกะแคมเปญ 11.11 ในไตรมาสสุดท้าย ย้ำเป้าหมายเติบโตปีนี้ที่ 10-15% (ที่มา ทันหุ้น)