วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ผลประกอบการหักล้างกับความผันผวนของดอกเบี้ย

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ผลประกอบการหักล้างกับความผันผวนของดอกเบี้ย

ภาพรวมการลงทุนเคลื่อนไหวไปตามปัจจัยที่เข้ามากระทบ หุ้นสหรัฐฯผันผวนในแดนลบก่อนกลับมาปิดบวก โดยตลาดตอบรับหลายปัจจัย ได้แก่ 1) ยอดค้าปลีกก.ย. +0.7% MoM (สูงกว่าคาดการณ์ที่ +0.3% MoM และเร่งขึ้นจาก ส.ค.ที่ +0.6% MoM)

ทำให้ตลาดกังวลเศรษฐกิจระยะสั้นที่ร้อนแรงเป็นความเสี่ยงบีบเฟดขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมรอบ ธ.ค. 2) สหรัฐฯ ประกาศมาตรการใหม่เกี่ยวกับการห้ามส่งออกชิปด้าน AI ไปยังจีน ส่งผลให้หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ หลายตัวปรับลดลง หุ้น NVDIA ปรับลดลง -4.68% 3) การรายงานผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งของสหรัฐฯ ออกมาดี ได้แก่ Bank of America และ Hohnson & Johnson ประกอบกับยอดค้าปลีกที่ดี ทำให้ตลาดประเมินบวกต่อภาพรวมผลประกอบการบริษัทอื่นๆที่จะทยอยออกมา

ตัวเลข GDP จีนที่ดีกว่าคาดและการเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการ ยังสนับสนุนมุมมอง SET Index มีโอกาสฟื้นตัว จีนรายงาน GDP ไตรมาส 3/66 ที่ +1.3% QoQ และ +4.9% YoY ดีกว่าที่ตลาดคาด +1.0% QoQ และ +4.4% YoY และภาพรวม 3 ไตรมาส +5.2% ซึ่งเพิ่มความน่าจะเป็นที่ GDP จีนทั้งปีอาจจะดีกว่าที่ IMF หรือ OECD คาดการณ์ นอกจากนี้เข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการ ซึ่งการเคลื่อนไหวของหุ้นมักจะเป็นไปตามภาพผลประกอบการรายตัวมากกว่าเคลื่อนไหวตามปัจจัยภายนอก ประกอบกับ Valuation range อิง Earnings Yield Gap อยู่ที่ 1,403-1,647 จุด ทำให้เราคงมุมมองลุ้นดัชนีฟื้นตัวจากระดับ 1,400-1,430 จุด โดยเน้นหุ้นที่มีกำไรแข็งแกร่ง, ได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่า และกลุ่มที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนักในดัชนี Free Float Adjusted ช่วงสั้นกลุ่มที่แข็งแกร่งกว่าตลาด ได้แก่ การแพทย์, อาหาร, สื่อสาร, ประกัน
 

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวในกรอบ 1,420-1,460 จุด หุ้นที่ลงเยอะจากการขายชอร์ต อาจเป็นเป้าหมายของการซื้อคืน ขณะที่ภาพการเก็งกำไรยังเน้นกลุ่มได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่าทั้งทางตรง (อิเล็กทรอนิกส์และอาหาร) และทางอ้อม (การแพทย์และท่องเที่ยว)

หุ้นแนะนำ: BDMS*, BTG*, TLI*, GFC*

แนวรับ: 1,420 / แนวต้าน : 1,460 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

คณะทำงาน ‘ไบเดน’ สั่งห้ามส่งออกชิปอินวิเดียไปจีน-  คณะทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ระบุในวันอังคารถึงแผนการระงับการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงให้แก่จีน ที่ผลิตโดยบริษัท Nvidia และบริษัทอื่น ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการสกัดกั้นรัฐบาลปักกิ่งในการเข้าถึงเทคโนโลยีชิปขั้นสูง ที่สหรัฐฯ มองว่าจีนอาจนำไปใช้เสริมศักยภาพด้านการทหารได้ ตามรายงานของรอยเตอร์ (วีโอเอไทย) 

นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนธ.ค. หลังยอดค้าปลีกแกร่ง- นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่สูงเกินคาด นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.3% ยอดค้าปลีกได้รับแรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ และยอดขายของสถานีบริการน้ำมันหากไม่รวมยอดขายรถยนต์และน้ำมัน ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.1% (อินโฟเควสท์)
 

‘เศรษฐา’ หารือ 10 ‘บิ๊กคอร์ป’ จีน ดึงลงทุนอุตสาหกรรมไฮเทคขยายธุรกิจในไทย–นายกเยือนจีนร่วมประชุม BRF พบ 10 บิ๊กคอร์ปจีน ดึงลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย โชว์ “แลนด์บริดจ์” แม่เหล็กใหม่ของไทย หารือ CRRC ลงทุนระบบราง “ผิงอัน” สนลงทุนบริการประกันภัยนอกประเทศ ดึง “อาลีบาบา” ขยายลงทุน Cloud Service ในไทย “เสี่ยวมี่” เล็งขยายผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (กรุงเทพธุรกิจ)

 

ประเด็นติดตาม: 18 ต.ค. – CH GDP, EU CPI, US Building Permits, US Housing StartsSentiment/  19ต.ค. – Initial Jobless Claim, Existing Homesales, Fed Chair Powell Speaks, Philadephia Fed Manufacturing Index / 24 ต.ค. S&P Global Services PMI 

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)