วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Healthcare Sector คาดกำไร 4Q66F ยังดูดีแม้จะอ่อนตัว QoQ

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Healthcare Sector คาดกำไร 4Q66F ยังดูดีแม้จะอ่อนตัว QoQ

แนวโน้มธุรกิจกลุ่มโรงพยาบาลใน 4Q66 และ 2567

ประเมินกำไรสุทธิเบื้องต้นใน 4Q66F จากประมาณการในปัจจุบันและกำไรสุทธิใน 9M66 (Figure 3-4)

• Bangkok Chain Hospital (BCH.BK/BCH TB)* คาดกำไรสุทธิใน 4Q66F อยู่ที่ 442 ล้านบาท (+63.9% YoY และ +0.3% QoQ)

• Bangkok Dusit Medical Services (BDMS.BK/BDMS TB)* คาดกำไรสุทธิใน 4Q66F อยู่ที่ 3.91 ล้านบาท (+25.7% YoY และ +0.6% QoQ)

• Bumrungrad Hospital (BH.BK/BH TB)* คาดกำไรสุทธิใน 4Q66F อยู่ที่ 1.65 พันล้านบาท (+6.7% YoY แต่ -15.6% QoQ)

• Chularat Hospital (CHG.BK/CHG TB)* คาดกำไรสุทธิใน 4Q66F อยู่ที่ 233 ล้านบาท (-18.2%YoY และ -28.4% QoQ)

• Ekachai Hospital (EKH.BK/EKH TB) คาดกำไรสุทธิใน 4Q66F อยู่ที่ 57 ล้านบาท (-83.9%YoY และ -39.3% QoQ) อย่างไรก็ตาม กำไรปกติของ EKH จะแข็งแกร่ง YoY เมื่อเทียบกับขาดทุนปกติ 58 ล้านบาทในงวด 4Q65

• Ladprao Hospital (LPH.BK/LPH TB) คาดกำไรสุทธิใน 4Q66F อยู่ที่ 38 ล้านบาท (-4.6% YoYแต่ +11.2% QoQ)

 

เป็นปกติที่กำไรจะอ่อนตัว QoQ ในไตรมาสที่สี่ของปี

จากที่กลุ่มโรงพยาบาลทำกำไรใน 3Q66 ได้แข็งแกร่งที่สุดของปี เราคาดกำไรหลักใน 4Q66F ดูแข็งแกร่ง (เทียบฤดูกาลที่อ่อนตัว QoQ) ขณะที่กำไรน่าจะยังคงแข็งแกร่ง YoY หนุนจากการฟื้นตัวต่อเนื่องของจำนวนผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยที่มารับการรักษาประเภทที่มีความซับซ้อน (intensity) เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการเน้นโรคที่มีความซับซ้อนมากขึ้น อิงจากประมาณการปัจจุบันของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่เราศึกษาอยู่เราคาดกำไรสุทธิรวมใน 4Q66F อยู่ที่ 6.33 พันล้านบาท (+13.0% YoY แต่ -6.0% QoQ)

 

แนวโน้มการเติบโตดีต่อเนื่องในปี 2567F

เมื่อมองไปในอนาคต เรายังคงมองมุมบวกต่อธุรกิจโรงพยาบาล เนื่องจากยังมีอัตราการเติบโตของกำไรต่อเนื่องในระยะยาว โดยมีปัจจัยหนุนหลักจาก i) การรักษาพยาบาลมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้นหรือที่เรียกว่าศูนย์ความเป็นเลิศ (Center of Excellence: COE) ในทุกโรงพยาบาล ii) การเป็นสังคมสูงวัยในประเทศไทย และ iii) การแข่งขันในด้านคุณภาพ บริการและราคาสำหรับผู้ป่วยต่างชาติ (เทียบกับโรงพยาบาลเดียวกันในภูมิภาคและประเทศพัฒนาแล้วต่าง ๆ) นอกจากนั้น เราคิดว่าโรงพยาบาลขนาดใหญ่จะขยายการรองรับผู้ป่วยในอนาคตเพื่อให้ก้าวทันกับการเติบโต หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือมีอัตรากำไร (margin) สูงขึ้นในระยะยาวจากการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนั้ BH* เป็นแบบอย่างของผลการดำเนินงานที่ประสบผลสำเร็จมาแล้ว ด้วยอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่น่าประทับใจอยู่ที่ 26.7% ในปี 2565

เป็นช่วงเวลาที่โรงพยาบาลขนาดเล็กดูน่าสนใจกว่า

เราเชื่อว่าเป็นช่วงที่เหมาะสมในการแนะนำให้ลงทุนกลุ่มโรงพยาบาลขนาดเล็กหลังจากผ่านฐานกำไรสูงใน 1H66 มาแล้ว เนื่องจากเราคาดโรงพยาบาลขนาดเล็กหลายแห่งสามารถทำรายได้อยู่ในระดับสูงกว่าช่วงก่อนโรค COVID ระบาดเมื่อปี 2562 ทั้งนี้ เราชื่นชอบ BCH* และ CHG* จากประเด็นดังกล่าว

Valuation & Action

เรายังคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มโรงพยาบาลที่ Overweight พิจารณาจากฐานกำไรปกติหลังจากการระบาดของ COVID-19 และเลือกหุ้นเด่นเพิ่มคือ BCH* ประเมินราคาเป้าหมายด้วยวิธี DCF ปี 2567 ที่ 24.00 บาท ส่วน BDMS* ยังคงเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มด้วยราคาเป้าหมาย DCF ปี 2567 ที่ 37.50 บาท

Risks

COVID-19 ระบาด เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่และเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าคาด

 

 

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Healthcare Sector คาดกำไร 4Q66F ยังดูดีแม้จะอ่อนตัว QoQ

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Healthcare Sector คาดกำไร 4Q66F ยังดูดีแม้จะอ่อนตัว QoQ