วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ภาพรวมยังเคลื่อนไหวตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ภาพรวมยังเคลื่อนไหวตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

ปัจจัยที่กระทบต่อบรรยากาศลงทุนช่วงสั้นได้แก่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีน ได้แก่ 1) (8 ธ.ค.) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร  เพิ่มขึ้น 199,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 180,000 ตำแหน่ง และเพิ่มขึ้นจากระดับ 150,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.

ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.7% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9% 2) (11 ธ.ค.) ความกังวลของนักลงทุนว่าจีนกำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืดและอาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ หลังรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พ.ย. -0.5% (แย่กว่า ต.ค. -0.2%) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) พ.ย. -3.0% (แย่กว่า ต.ค. -2.6%) ซึ่งอาจเป็นการบ่งชี้ถึงภาวะเงินฝืดที่รุนแรงขึ้น // ภาพรวมตลาดยังรอมุมมองการดำเนินนโยบายการเงินจากการประชุมเฟด 13 ธ.ค. ซึ่งมีโอกาสผอนคลายมากขึ้น อย่างไรก็ตามอาจต้องระวังถ้อยแถลงของประธานเฟดที่อาจจะยังคงมุมมองแบบตึงตัวเพื่อไม่ให้ตลาดผ่อนตลายต่อเงินนเฟ้อมากเกินไป

ยังคงมุมมองบวกต่อแรงซื้อในประเทศจาก TESG และเน้นหุ้นกลุ่มที่มีกระแสเงินสดดี การซื้อสุทธิของนักลงทุนสถาบันในประเทศอย่างต่อเนื่องเป็นสัญญาณบวกที่ดี ทั้งนี้ เราคาดเม็ดเงินจาก TESG จะเข้าสู่ตลาดประมาณปีละ 1-1.5 หมื่นล้านบาท (ดีกว่า SSF ที่ 3-4 พันล้านบาท แต่ต่ำกว่า LTF ที่เม็ดเงินซื้อสุทธิปีละ 7-8 หมื่นล้านบาท) ด้วยภาวะการลงทุนปีหน้าที่ผลตอบแทนพันธบัตรในระดับสูงจะทำให้ภาพการลงทุนมีโอกาสโน้มเอียงไปทางพันธบัตร เรามองหุ้นที่น่าสนใจจะเป็นกลุ่มที่มีกระแสเงินสดดีและการส่งผ่านเงินสดไปยังผู้ถือหุ้นสูง ซึ่งในกลุ่มที่มี ESG rating AAA และ AA ที่มีโอกาสเป็นเป้าหมายการเข้าซื้อ ได้แก่ ADVABC, BCP, CPALL, CPAXT, CPF, CRC, PTT, SCGP, TISCO, BCPG, BDMS, CPN, EA, EGCO, MAJOR, RATCH, SCB เป็นต้น
 

ภาพรวมกลยุทธ์ คาดบรรยากาศเก็งกำไรรายตัวโดยเฉพาะหุ้นกลาง-เล็ก ยังเป็นบวก และคงประเมินภาพใหญ่ของตลาดช่วงปลายปีต่อต้นปีฟื้น จากเงินเฟ้อชะลอ กดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ลดลง บวกต่อการฟื้นตัวของหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง การลงทุนเน้นหุ้นพื้นฐานดีที่ให้ปันผลสูง ขณะที่การเก็งกำไรเน้นกลุ่มที่ยัง Laggard และผ่านจุดที่แย่ที่สุดของผลประกอบการมาแล้ว

หุ้นแนะนำ: ADVANC*, SCGP*, PTG*, ETL*

แนวรับ: 1,366-1,380 / แนวต้าน : 1,400 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

ตลาดจับตาประชุมธนาคารกลางสหรัฐ-ยุโรป-อังกฤษสัปดาห์นี้ คาดพร้อมใจตรึงดบ.ๆ - ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาการประชุมนโยบายการเงินของ 3 ธนาคารกลางรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมในวันที่ 12-13 ธ.ค. ส่วนธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะจัดการประชุมตรงกันในวันที่ 14 ธ.ค. นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางทั้ง 3 แห่งจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า (อินโฟเควสท์)

จับตา ครม.12 ธ.ค. แรงงานชงมติคณะกรรมการไตรภาคีเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ - หลังเคาะให้เพิ่ม 2 - 16 บาท แต่นายกฯไม่พอใจบอกปรับขึ้นน้อยไปไม่ใกล้เคียงตัวเลข 400 บาทต่อวัน "คลัง" เสนอมาตรการพักหนี้ (กรุงเทพธุรกิจ)

เงินเฟ้อส่งสัญญาณซึมยาว พาณิชย์’ตั้งเป้าปีหน้าบวก 0.7% - สนค.เผยเงินเฟ้อเดือนพ.ย. ลดลง 0.44% ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ต่ำสุดในรอบ 33 เดือน ประเมินอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2567 อยู่ที่ติดลบ 0.3% ถึง 1.7% และมีค่ากลาง 0.7% (กรุงเทพธุรกิจ)
 

ประเด็นติดตาม: 12 ธ.ค. - US Core CPI / 13 ธ.ค. - US PPI, Fed Interest Rate Decision / 14 ธ.ค. - US Core Retail Sales, EU Deposit Facility Rate Decision, ECB Rate Decision

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)