วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ HANA แนวโน้มอุตสาหกรรมเป็นบวก แต่ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตา
จากข้อมูลของ Semiconductor Industry Association (SIA) ยอดขาย semiconductor ทั่วโลกอยู่ที่ 4.66 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ในเดือนตุลาคม 2566 เพิ่มขึ้น MoM ติดต่อกันเป็นเดือนที่แปด
ส่งผลให้ยอดขาย semiconductor ทั่วโลกในงวด 10M66 อยู่ที่ 4.23 แสนล้านดอลลาร์ฯ (-14% YoY) ทั้งนี้ ยอดขายที่ดีขึ้น
อย่างต่อเนื่องนี้ อาจจะบ่งบอกถึงโมเมนตัมเชิงบวกของอุปสงค์ และ ช่วยยืนยันแนวโน้มการกลับมาตุนสต็อก (inventory restocking) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนแนวโน้มอุตสาหกรรมตามมุมมองของผู้เชี่ยวชาญระดับโลก โดย World Semiconductor Trade Statistic (WSTS) ประเมินว่ายอดขาย semiconductor ทั่วโลกจะหดตัว 9.4% YoY ในปี 2566F ก่อนที่จะกลับมาโต 13.1% YoY ในปี 2567F
AI PCs จะช่วยหนุนอุปสงค์ PC
ตามบทวิเคราะห์ของ KGI Taiwan เรื่อง IT Hardware: AI PC to enhance PC demand in 2H24-2025F ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ทางทีมคาดว่ายอดจัดส่ง PC ทั่วโลกจะลดลงประมาณ 14-15% YoY ในปี 2566F เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ยอดจัดส่งน่าจะพลิกกลับมาเป็นบวกที่ 6% YoY ในปี 2567F เนื่องจากคาดว่าจะมีอุปสงค์การซื้อเครื่องใหม่แทนเครื่องเก่ากลับเข้ามา และจะมีอุปสงค์สำหรับการอัพเกรดเครื่องเพื่อให้ใช้งาน AI ได้ (คาดว่าอัตราการใช้งาน (penetration) AI PC ในปี 2567F จะอยู่ที่ 19% และเพิ่มเป็น 60% ในปี 2570F; Figure 3)
ยังมีปัจจัยเฉพาะบางประการที่น่าเป็นห่วง
แนวโน้มของอุตสาหกรรมที่เป็นบวกน่าจะช่วยสนับสนุนยอดขายของ HANA เพราะประมาณ 50% ของรายได้รวมของ HANA มาจากสินค้าในหมวดที่กำลังฟื้นตัว โดยประมาณ 10% ของรายได้รวมมาจากกลุ่มคอมพิวเตอร์ และอีกประมาณ 40% มาจาก smartphone โดย smartphone คาดว่าจะโต 4% YoY ในปี 2567 อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเฉพาะที่น่าเป็นห่วงและต้องจับตาดูต่อไป อย่างเช่น อุปสงค์ที่แผ่วลงของอุปกรณ์ silicon จากการที่เศรษฐกิจจีนอ่อนแอ ส่งผลให้บริษัททบทวนเป้ายอดขายในปี 2567F (จากเป้าเดิมที่ 45-48 ล้านดอลลาร์ฯ) และทำให้ถึงจุดคุ้มทุนในระดับ EBITDA ช้าลงเป็น 2H67F (จากเดิมที่คาดว่าจะถึงใน 1H67F)
Valuation & action
เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” HANA โดยประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 47.00 บาท อิงจาก PER ที่ 17.0x (+0.25 S.D) เราแนะนำให้จับตาดูจังหวะการฟื้นตัวของยอดขายในช่วง 4Q66F-1Q67F ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้มีการ re-rate PER เพื่อตอบรับวัฏจักรขาขึ้นของอุตสาหกรรม
Risks
ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น