วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง Window Dressing (วันสุดท้ายของปี)
ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways Up แนวต้าน 1,417/1,427 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,405/1,400 จุด (EMA 10 วัน) ทั้งนี้ โมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยระยะสั้นยังคงอยู่ในช่วงของการแรลลี่ หลังจากดัชนีฯ พุ่งขึ้นแรงจาก 1,354.73 จุด เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.
ในทางตรงกันข้ามดัชนีฯ จะเปลี่ยนเป็นสัญญาณอ่อนตัว หากดัชนีฯ หลุดแนวรับ EMA 25 วัน ที่ 1,398 จุด
ประเด็น Event สำคัญ วันนี้
+Window Dressing: การทำราคาปิดก่อนสิ้นงวดบัญชี (สิ้นปี 2023) มีความเป็นไปได้สูงที่อาจเกิดขึ้นในวันนี้ อิงจากระดับราคาของหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ร่วงลงแรง YTD นำโดยกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ บริการรับเหมาก่อสร้าง ไฟแนนซ์ ปิโตรเคมีฯ ธุรกิจการเกษตร พาณิชย์
+/-SET50/SET100 Index งวด 1H24: ผลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการเปลี่ยนแปลงหุ้นเข้าหรือออกจากการคำนวณดัชนี SET50/SET100 Index ชุดใหม่ ซึ่งคาดว่าราคาหุ้นชุดใหม่จะเริ่มมีผลต่อราคาปิดวันนี้ ทำให้คาดว่าจะเป็นปัจจัยลบต่อหุ้นที่ถูกออกจากการคำนวณ และเป็นบวกต่อหุ้นที่ถูกเพิ่มคำนวณใหม่ (SET50 Index เพิ่มหุ้น KCE และถอด TIDLOR; SET100 Index เพิ่ม 10 หลักทรัพย์ ได้แก่ AEONTS ICHI ITC M MOSHI RBF SAPPE SISB TKN TOA และถอด 10 หลักทรัพย์ ได้แก่ ACE CKP MBK PSL PTG SABUY STEC THANI TIPH TQM
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้
+ไทย: ธปท. รายงานตัวเลขเศรษฐกิจประจาเดือน พ.ย. โดย Consensus คาดผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยเป็น -4% YoY (Vs เดือน ต.ค. -4.29% YoY) ดุลบัญชีเดินสะพัด คาด +USD0.2bn. (เดือน ต.ค. +USD0.7bn.) ยอดค้าปลีกเดือน ต.ค. คาด +4.8% YoY (Vs เดือน ต.ค. +3.2% YoY) Private Consumption คาด +0.9% YoY (Vs เดือน ต.ค.+1.7% YoY)
US: ดุลการค้าเดือน พ.ย. คาด -USD90bn. (Vs เดือน ต.ค. -USD89.56bn.) Wholesale Inventories เดือน พ.ย. คาด -0.2% MoM (Vs เดือน ต.ค. -0.4% MoM) Pending Home Sales เดือน พ.ย. คาดดีขึ้น +0.9% MoM (Vs เดือน ต.ค. -1.5% MoM)
ตัวเลขเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่น่าสนใจในช่วงสัปดาห์นี้ (หลังจากวันหยุดไทย) ได้แก่ China รายงานภาคการผลิตและบริการรวมเดือน ธ.ค. คาด ดีขึ้นเป็น 50.5 (Vs เดือน พ.ย. 50.4)
กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นบลูชิพที่มีปันผลสูง สม่าเสมอ ได้แก่ CPALL TISCO JASIF
Strategic daily picks
CPALL ปิด 55.50 บาท/แนวรับ 53.50 บาท แนวต้าน 57.50 บาท
คาดยอดขายต่อสาขาใน 4Q23 มีแนวโน้มเติบโตในอัตราใกล้เคียงกับ 3Q23 โดยคาดจะเร่งตัวขึ้นในเดือน ธ.ค. 2023 ซึ่งบริษัทเตรียมจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขายต่อใบเสร็จอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาอัตราการซื้อต่อใบเสร็จเฉลี่ยราว 80 บาทต่อใบเสร็จ หรือมากกว่า ส่วนแผนการดำเนินงานปี 2024 บริษัทคาดรายได้รวมจะเติบโตได้ในอัตราที่สอดคล้องกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศที่ราว 3-4% พร้อมตั้งบลงทุนปี 2024 ที่ 3.5-3.6 หมื่นล้านบาท Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 1.72 หมื่นล้านบาท (+29.78% YoY)
TISCO ปิด 99.00 บาท/แนวรับ 97.00 บาท แนวต้าน 100.50 บาท
ภาพรวมธุรกิจในปี 2023 ยังเป็นไปตามแผน โดยตั้งเป้าสินเชื่อโต 5-10%, คุมหนี้เสียไม่เกิน 2.5% (ปัจจุบัน 2.25%) รวมถึงอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร (Coverage Ratio) ไม่ต่ำกว่า 150% (ปัจจุบัน 205.8% ลดลงจาก 258.8% ในปี 2022) Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 7.43 พันล้านบาท (+2.89% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 107.40 บาท
JASIF ปิด 6.20 บาท/แนวรับ 5.80 บาท แนวต้าน 6.50 บาท
BBLAM ในฐานะบริษัทจัดการของ JASIF ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมหารือกับ BBL เพื่อขอให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยและขยายระยะเวลาชำระหนี้ของสัญญาสินเชื่อ เนื่องจากมีการเปลี่ยนผู้สนับสนุนหลักมาเป็น AWN (บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด) ที่มีสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง และ ADVANC ได้เข้าซื้อหน่วยลงทุนใน JASIF เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ใน 3Q23 มีกำไรจากการลงทุน 1.94 พันล้านบาท (-12.48% YoY, -14.46% QoQ) และมูลค่าต่อหน่วย 8.4616 บาท (ณ วันที่ 30 พ.ย. 2023) Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 3.56 พันล้านบาท (-2.36% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 6.83 บาท