วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน
วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว sideway down สวนทางกับตลาดภูมิภาคที่ปรับตัวบวกเล็กน้อย จากแรงขายหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน และขนส่ง จากตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่ โดยกระทรวงพาณิชย์ รายงาน CPI เดือนธ.ค. หดตัว 0.83% ต่ำสุดตั้งแต่มี.ค. 64 จากตลาดคาดบริเวณ -0.35 ถึง -0.4%
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,427.96 จุด -6.63 จุด -0.46% มูลค่าการซื้อขาย 51,141 ลบ. Program Trading -2,463.73 ลบ. ต่างชาติ -3,096.17 ลบ. TFEX -10,382 สัญญา ตราสารหนี้ +355.76 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 25.77 จุด หรือ +0.07% หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด ดัชนีทั้ง 3 ตัวปรับตัวลงรายสัปดาห์เป็นครั้งแรกในรอบ 10 สัปดาห์ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.59%
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดพุ่งขึ้น 1.62 ดอลลาร์ หรือ +2.24% ปิดที่ 73.81 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 3% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางทำให้เกิดความวิตกว่าสงครามอาจจะขยายวงกว้างขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันดิบ
+ โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่อาจจะช่วยให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์ในปัจจุบัน
+ กรมสรรพสามิต เตรียมผลักดัน 4 มาตรการภาษีเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคมภายในปีนี้ประกอบด้วย 1. มาตรการสนับสนุนการใช้แบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้า 2.การเก็บภาษีคาร์บอนจากน้ำมันเบนซิน ดีเซล 3.ภาษีส่งเสริมการใช้ไบโอพลาสติก และ 4.มาตรการภาษีเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ
ปัจจัยลบ
- ล่าสุด FedWatch Tool บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 53.8% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค.2567 จาก 72.8% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- เกาหลีใต้สั่งการให้ประชาชนบนเกาะยอนพยอง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณพรมแดนทางฝั่งตะวันตกของประเทศ อพยพไปยังแหล่งหลบภัย หลังเกาหลีเหนือส่งสัญญาณยั่วยุทางทหาร
- จีนสั่งคว่ำบาตรบริษัทผลิตอาวุธของสหรัฐฯ 5 รายเพื่อตอบโต้ต่อกรณีที่สหรัฐจำหน่ายอาวุธให้กับไต้หวันซึ่งเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งเพื่อสรรหาประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวันในวันที่ 13 ม.ค. ซึ่งผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวัน
- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จงจื่อ เอนเตอร์ไพรส์ กรุ๊ป (Zhongzhi Enterprise Group Co.) ธนาคารเงายักษ์ใหญ่ของจีน ยื่นล้มละลายต่อศาลแล้ว หลังจากที่บริษัทได้แจ้งต่อนักลงทุนเมื่อวันที่ 23 พ.ย. ปีที่แล้วว่า กำลังจะล้มละลาย โดยบริษัทมีหนี้สินอยู่สูงถึง 4.6 แสนล้านหยวน (ราว 6.43 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
- ตลาดหลักทรัพย์ สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนระหว่าง 2-5 มกราคม 2567 พบว่าสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 104.76 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 225.49 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,087.64 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,757.40 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวเหนือระดับ 4% ขณะที่ปัจจัยในประเทศมีประเด็นการ Roll Over หุ้นกู้ ของบริษัทจดทะเบียน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,420-1,435 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• Easy E-Receipt : BJC CPALL CPAXT COM7 SPVI CPW JMART HMPRO DOHOME GLOBAL ZEN M AU TNP KK
• หุ้นที่มี ESG สูง และอยู่ใน SET50 : ADVANC CPALL CPF CRC OR PTTEP TOP
• ค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ปรับตัวขึ้น 41%QTD : RCL
หุ้นรายงานพิเศษ
CIVIL "ซื้อ" Bloomberg Consensus 3.40 บาท Upside 62%
"ผลประกอบการจะฟื้นตัวตั้งแต่ 4Q66 เป็นต้นไป"
•งวด 3Q66 มีกำไร 6 ลบ. พลิกจากปีก่อนที่ขาดทุน 69 ลบ. แต่อ่อนตัว 55%QoQ โดยมีรายได้ 1,312 ลบ. -8%YoY +12%QoQ ลดลงจากปีก่อนเนื่องจากเป็นช่วงส่งมอบงานรถไฟความเร็วสูงช่วงสีคิ้ว-กุดจิก และเป็นช่วงปลายงานของโครงการรถไฟทางคู่ชุมพร ขณะที่ %GPM อยู่ที่ 6.5% (3Q65 = 1.1%, 2Q66 = 7.5%) ดีขึ้นจากปีก่อนที่มีค่าใช้จ่าย One-time ในการปรับต้นทุนเพิ่มของกลุ่มงานรถไฟ แต่อ่อนลง QoQ เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นโครงการใหม่ ทั้งนี้ 9M66 มีกำไร 67 ลบ. +3,278%YoY
•แนวโน้ม 4Q66 คาดจะฟื้นตัว QoQ จากการทยอยรับรู้งานโครงการเดิมและโครงการใหม่ โดย ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 66 ราว 5,300 ลบ. (9M66 คิดเป็น 74%) ปัจจุบันมี Backlog 14,432 ลบ. และยังมีโครงการใหญ่รอเซ็นสัญญาช่วง 1Q67 คือ รถไฟความเร็วสูง เฟส 4-5 บ้านโพ-พระแก้ว มูลค่า 1.03 หมื่นลบ. คาดจะรองรับการเติบโตได้อย่างน้อยอีก 3 ปี
•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไรตั้งแต่ 4Q66 เป็นต้นไปที่คาดจะเห็นการทยอยฟื้นตัวชัดเจน โดย Catalyst ระยะสั้นจะมาจากโครงการภาครัฐทยอยออกมาต่อเนื่อง ล่าสุด รมว.กระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอให้พิจารณาแผนลงทุนเร่งด่วน 7 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 1.48 แสนล้านบาท ตลอดจนโครงการ Landbridge (ชุมพร-ระนอง) ที่ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการ Roadshow หานักลงทุนจากต่างประเทศ โดยเราคาดว่าบริษัทฯมีศักยภาพในการรับงานทั้งในแง่ของงานรับเหมาก่อสร้างหรือจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากมีสัมปทานเหมืองหินที่ จ.สระบุรี และโรงผลิตคอนกรีตผสมเสร็จที่ จ.กระบี่ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 66 ราว 110.6 ลบ. +72%YoY (9M66 คิดเป็น 61% ของประมาณการทั้งปี) และราคาเหมาะสม 3.40 บาท Upside 62% แนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) LEO (Bloomberg consensus - บาท) รับขนส่งไตรมาส 1/2567 โดดเด่นเหนือคาด รับอานิสงส์ ค่าระวางพุ่ง จากปัญหาทะเลแดง ขณะที่รายได้ขนส่งสินค้าทางรางจะเร่งตัว เตรียมขยายเส้นทางในประเทศ อีสาน-ใต้ วางงบลงทุน 400-500 ล้านบาท แย้มปิดดีล M&A-ร่วมทุน ภายในไตรมาส 1/2567 นี้ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) ITTHI (Bloomberg consensus - บาท) ส่งสัญญาณไตรมาส 1/2567 มีงานส่งมอบให้ลูกค้าเพียบ หลังตุนแบ็กล็อกแน่น 300 ล้านบาท ด้านบอสใหญ่ "ธนเสฏฐ์ อัครบุญญาพัฒน์" คาดปีนี้ งานไหลเข้าเกือบ 500 ล้านบาท ปักเป้ารายได้ชน 800 ล้านบาท มาร์จิ้น 8-10% พร้อมลุยขยายธุรกิจกลุ่มสมาร์ทซิตี้ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) RBF (Bloomberg consensus 14.40 บาท) รับอานิสงส์ต้นทุนวัตถุดิบทรงตัวระดับปกติ สวนทางความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น หนุนยอดขายปี 2567 โตต่อเนื่องราว 10-15% ทั้งยังเตรียมขยายกำลังการผลิตในต่างประเทศช่วงครึ่งหลังของปี 2567 เล็งปรับแผนการผลิตควบคู่ปรับกลยุทธ์การตลาดขยายฐานครอบคลุมภูมิภาคเอเชีย (ที่มา ทันหุ้น)
(+) TPIPP (Bloomberg consensus 4.00 บาท) วางเป้ายอดขายไฟทั้งปี 2567 แตะ 2,200 ล้านหน่วย ดันรายได้โต 10% เตรียม COD โครงการโซลาร์ 70 เมกะวัตต์ ช่วงครึ่งปีหลังหนุนกำลัง การผลิต แตะ 510 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 8 เมกะวัตต์ ระบุมีโครงการรอเซ็นสัญญา 10 เมกะวัตต์ ในปี 2568 มั่นใจชดเชยค่าแอดเดอร์ที่จะหมดลงได้ พร้อมอัดงบลงทุนกว่าหมื่นล้าน (ที่มา ทันหุ้น)