วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี CHG - กำไรลดลงใน 4Q23F แต่ FY23F ใกล้เคียง
เราคาดว่ากำไรสุทธิจะลดลง 15%qoq เป็น 277 ลบ.ใน 4Q23F เนื่องจากอัตรากำไรที่อ่อนตัวจากโรงพยาบาล CH แม่สอดที่เพิ่งเปิดใหม่ และการประหยัดต่อขนาดลดลง เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยในที่น้อยลง (occupancy rate ลดลงเป็น 80% จาก 80%+)
อย่างไรก็ตาม FY23F ใกล้เคียงประมาณการของเราและตลาด เราคงคำแนะนำ ถือ
กำไรธุรกิจหลัก 4Q23F คาดลดลง 15% qoq
เราคาดกำไรธุรกิจหลัก 277 ลบ.ใน 4Q23F เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นลดลง (26%ใน 4Q เทียบกับ 29% ใน 3Q) จาก CH แม่สอดที่เพิ่งเปิดใหม่ (ยังคงขาดทุนต่อเนื่อง 17 ลบ.) และการประหยัดจากขนาด ลดลง เนื่องจากรายได้ IPD (ซึ่งมีอัตรากำไรสูง) ลดลง (occupancy rate ลดลงเป็น 80% จาก 80% + ใน 3Q23) ทั้งนี้รายได้จะทรงตัว qoq เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโรคตามฤดูกาลยังต่อเนื่อง (ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออกและมือเท้าปาก Fig. 2-4) และมีรายได้ภาระเสี่ยง (Adj. RW<2) จาก SSO
คาดกำไร FY23F จะใกล้เคียงประมาณการของเราและตลาด
กำไร 4Q23F จะทำให้กำไร FY23F เป็น 1.05 พันลบ. ซึ่งใกล้เคียงประมาณการของเราและตลาด เราคาด DPS งวดสุดท้าย 0.04 บาท อัตราผลตอบแทน 1.3% บริษัทจะประกาศผลการดำเนินงานวันที่ 29 กุมภาพันธ์
อัพไซด์สำหรับ FY24F
ได้แก่ (i) รายได้และอัตรากำไรขั้นต้นจาก SSO รวมถึง (a) โควตา SSO เพิ่มจาก 564,900 เป็น 700,000 รวมถึง CH3, CH9 และ CH ระยอง ซึ่งปกติจะมีผู้ลงทะเบียนเต็ม (Fig. 5-6) การวิเคราะห์ความอ่อนไหวของเราแนะนำว่ากำไรสุทธิปี FY24F จะเพิ่มขึ้น 1% หากจำนวนผู้จดทะเบียนเพิ่มขึ้น 1% (b) โควต้าอาจเพิ่ม 15% สำหรับการนัดหมายออนไลน์ (+5%) และบริการทางไกล (+10%) (c) เพิ่มค่าชดเชยค่ารักษาทางทันตกรรมเป็น 1,200 บาท/ปี จากเดิม 900 บาท (d) วัคซีนไข้หวัดใหญ่สำหรับสมาชิกที่มีอายุ >40 ปี (จากปัจจุบัน >50 ปี) และ (e) แพ็คเกจพรีเมียมสำหรับ SSO ม.40 (ปัจจุบันมีสมาชิก 11 ล้านคนทั่วประเทศ) (f) เบิกค่าตรวจการนอนหลับและ CPAP สูงสุด 27,000 บาท/เคส; (ii) CHG ได้ขยายสัญญาบริหารศูนย์โรคหัวใจที่โรงพยาบาลสิรินธร 1 ปี และจะทำสัญญาเป็น 5 ปี นอกจากนี้จะขยายสัญญาที่รพ.สมุทรปราการและรพ.ระยอง (iii) ประโยชน์จาก Century Care เพื่อปรับปรุงการหมุนเวียนของผู้ป่วยที่ CH3 และ CH9; (iv) การประหยัดต้นทุนต่อเนื่อง(เช่น รวมศูนย์กลางจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์)