วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ แม้ต่างชาติขายนับจากต้นปี แต่เห็นการทยอยสะสมเป็นรายอุตสาหกรรม

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ แม้ต่างชาติขายนับจากต้นปี แต่เห็นการทยอยสะสมเป็นรายอุตสาหกรรม

แม้ต่างชาติขายสุทธิในช่วง ม.ค. แต่มีสัญญาณบวกของการถือหุ้นเพิ่มในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม แม้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 30,874 ล้านบาท ในช่วง ม.ค.67 ที่ผ่านมา

และทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ (Foreign ownership) ที่คำนวณจากการถือหุ้นต่างชาติ (Foreign holding) และ NVDR ลดลงเหลือเพียง 28.70%  อย่างไรก็ตาม เราพบว่านักลงทุนต่างชาติมีการเพิ่มการถือครองในหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ เกษตร, ยานยนต์, อาหาร, การแพทย์, สื่อสาร, บรรจุภัณฑ์, อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์ เรายังมองการลงทุนเน้นการเลือกลงทุนรายตัวมากกว่าการอิงภาพรวมของดัชนี

กลุ่มที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/66 ฟื้นตัว – กลุ่มท่องเที่ยว การแพทย์ และอาหารสัตว์เลี้ยง โดยภาพรวมแนวโน้มหุ้นในกลุ่มนี้มีแนวโน้มรายงานกำไรไตรมาส 4/66 แข็งแกร่ง และมีแนวโน้มต่อเนื่องไปยังไตรมาส 1/67 โดยหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ AOT, AAV, ERW, MINT, CENTEL, AWC, SPA, BDMS, ITC, AAI เป็นต้น โดยเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยวที่โมเมนตัมนักท่องเที่ยวชาวจีนทำ new high ต่อเนื่อง นอกจากนี้การเติบโตของนักท่องเที่ยวในระดับ 20-30% จากปีก่อน จะมีส่วนหนุนต่อการเร่งตัวของกำไรหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 1/67 อย่างมีนัยสำคัญ
 

กลุ่มที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/66 แย่ แต่เป็นโอกาสในการซื้อ – กลุ่มค้าปลีก และอาหาร (เนื้อสัตว์) ทั้งนี้กลุ่มค้าปลีกหลายตัวอาจมีผลประกอบการไตรมาส 4/66 ที่อ่อนแอหรือผิดคาดจากการชะลอการจับจ่ายเพื่อรอใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากมาตรการ Easy E-receipt อย่างไรก็ตาม กำไรน่าจะฟื้นตัวแรงในช่วงไตรมาส 1/67 ทำให้หุ้นในกลุ่มนี้จะผันผวนแต่เป็นโอกาสเก็งกำไรหากผลประกอบการช่วงสั้นน่าผิดหวัง ได้แก่ HMPRO, DOHOME, GLOBAL, COM7, SPVI เป็นต้น / สำหรับกลุ่มอาหาร ไตรมาส 4/66 น่าจะเป็นผลประกอบการที่อ่อนแอในช่วงท้ายก่อนดีขึ้นจากราคาเนื้อสัตว์ และต้นทุนการผลิตที่ลดลง การรายงานผลประกอบการที่อ่อนแอ จะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อทั้ง CPF, BTG และ TU (ตั้งสำรองด้อยค่า Red Lobster)

ภาพรวมกลยุทธ์ แกว่งตัว 1,356-1,380 จุด การเก็งกำไรยังเน้นเป็นเพียงการซื้อโดยกำหนดจุดตัดขาดทุน เน้นกลุ่มที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีหรือฟื้นตัวชัดเจน อาทิ ท่องเที่ยว ขณะที่อาจเลือกกลุ่มที่ปรับลดลงมาเยอะนับจากต้นปี (อาทิ EA, COM7, IVL, SCGP, KCE, CRC, CBG, TLI, HMPRO, PTTGC)

หุ้นแนะนำ: AWC*, SAMART*, ITC*, GFC*

แนวรับ: 1,356-1,360 / แนวต้าน : 1,380-1,389 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

เรืองไกร ยื่น กกต.ยุบ ก้าวไกล ชี้เข้าเงื่อนไขตาม ม.92 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง หลังศาลศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยการใช้แก้ไข ม.112 หาเสียง เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง (ไทยพีบีเอส)

รมว.คมนาคม จ่อบินจีนโรดโชว์แลนด์บริดจ์ มี.ค.นี้ โดยเปิดเผยว่า โครงการได้รับความสนใจจากนักลงทุนหลายประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ตะวันออกกลาง อินเดีย โดยเฉพาะ กลุ่ม DP World เป็นรายแรกที่จะเข้ามาลงพื้นที่ ในเดือนก.พ.นี้ (อินโฟเควสท์)

สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสูงกว่าคาด สู่ระดับ 224,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 213,000 ราย(อินโฟเควสท์)

เงินเฟ้อยูโรโซน(CPI YoY) ชะลอตัวที่ 2.8% ในเดือน ม.ค.67 ตามคาด ปรับตัวลงจากงวดก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 2.9% โดยหลักเป็นการสูงขึ้นในอัตราที่ลดลงจากราคาพลังงาน ในขณะที่เงินเฟ้อภาคบริการยังคงเดิม ในขณะที่อัตราการว่างงานUnemployment rate อยู่ที่6.4% ตามตลาดคาด

BoE คงดอกเบี้ยตามคาดที่ 5.25% ทั้งนี้นักลงทุนคาดว่า BoEจะลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วสุดในเดือนพ.ค. โดยปรับลงสู่ระดับ5.00% และสิ้นปี67 จะอยู่ที่ระดับ 4.25%(อินโฟเควสท์)

ธนาคารกลางฮ่องกงมีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามเฟด มั่นใจตลาดการเงินราบรื่น โดยประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ5.75% (31 ม.ค.)

ตรุษจีน คาดนทท.ทะลักเข้าไทย 3.5 ล้านคน สั่ง AOT เตรียมพร้อมรับการเดินทาง 

AOT คาดช่วงตรุษจีน ผู้โดยสาร 6 ท่าอากาศยานเพิ่มขึ้น 20% เที่ยวบินโต 16.7% (อินโฟเควสท์)

BA ครองแชมป์ เพิ่มเที่ยวบินพิเศษมากสุด 73เที่ยวบิน (ข่าวหุ้น)

PTTEP ลุยลงทุน2.3แสนล้านบาทเพิ่มก๊าซฯอ่าวไทย ตั้งเป้าเดินเครื่องผลิตตามสัญญาแหล่งเอราวัณ แม.ย.นี้ ยันเทรนด์อีวีไม่กระทบดีมานด์ก๊าซธรรมชาติ (กรุงเทพธุรกิจ)

JKN ตลท.สั่งJKNชี้แจงข้อเท็จจริงปรับโครงสร้าง JKN Legacy ก่อนขายหุ้นกิจการองค์กรนางงามจักรวาล (MUO) ขีดเส้นตายภายใน 6ก.พ.67 กังขาเปิดข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริง 

 

ประเด็นติดตาม: 2 ก.พ.-US Unemployment Rate(Jan)/Non Farm  Payrolls(Jan)/ 5 ก.พ. – TH CPI(Jan) / ISM Services PMI(Jan)

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)