เวสต์เทกซัส 72.78 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เบรนท์ 77.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (6 ก.พ. 67) ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับ ราคาน้ำมันดิบ 

+ ราคาน้ำมันดิบ เวสต์เทกซัส และ เบรนท์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ภายหลังกองทัพยูเครนได้เดินหน้าโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซียอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอากาศยานไร้คนขับ (Drone) ได้โจมตีโรงกลั่นน้ำมัน Volgogard ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัสเซีย

+ รายงานฉบับล่าสุดขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของ เศรษฐกิจโลก ปี 2567 ขึ้นจากระดับ 2.7% มาอยู่ที่ระดับ 2.9% หลัง OECD คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น โดยจะเติบโตที่ระดับ 2.1% สูงกว่ารายงานครั้งก่อนที่ระดับ 1.5% หลังอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลงส่งผลให้ OECD คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงไตรมาสที่ 2/2567

+/- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ ในเดือน ม.ค. 67 อยู่ที่ระดับ 53.4 สูงกว่าเดือนก่อนที่ระดับ 50.5 ตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ซึ่งประกาศออกมาก่อนหน้า ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงไว้ที่ 5.25-5.50% 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินของจีนในเดือน ก.พ. 67 จะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0.6 ล้านตัน จากเดือนก่อนที่ระดับ 0.8 ล้านตัน หลังความต้องการใช้ในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการประมูลขายน้ำมันเบนซินของประเทศปากีสถานสำหรับส่งมอบเดือน มี.ค. 67

 

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้ตลาดได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังยุโรป ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 1 ก.พ. 67 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.5% มาอยู่ที่ระดับ 1.95 ล้านตัน ประกอบปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลของรัสเซียปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดปริมาณการส่งออกของน้ำมันดีเซลของรัสเซียอยู่ที่ระดับ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ม.ค. 67