วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SISB ผลประกอบการ 4Q66: กำไรสุทธิเป็นไปตามที่เราคาด
ผลประกอบการ 4Q66 และจ่ายเงินปันผลปี 2566 ที่ 0.31 บาท/หุ้น (ขึ้น XD วันที่ 8 มีนาคม 2567)
กำไร 4Q66 เป็นสถิติสูงสุดใหม่ตามคาด
SISB รายงานผลกำไรใน 4Q66 ดีเยี่ยมด้วยกำไรสุทธิสูงสุดใหม่อยู่ที่ 211 ล้านบาท (+64.0% YoY และ +63.8% QoQ) คิดเป็น 32.2% ของกำไรเต็มปี 2566 ที่ 654 ล้านบาท นอกจากนั้น กำไรสุทธิของบริษัทใน 4Q66 เท่ากับประมาณการของเรา แต่สูงกว่านักวิเคราะห์ในตลาดคาดเกือบ 5% ขณะที่ผลการดำเนินงานโดยรวมสะท้อนกำไรใน 4Q66 ของ SISB แข็งแกร่ง QoQ เป็นผลจากรายได้กับต้นทุนที่สอดคล้องกันในไตรมาสนี้ หลังจากมีผลกระทบทางลบที่ผิดปกติใน 3Q66 ที่รายได้กับต้นทุนของบริษัทไม่สอดคล้องกัน เนื่องจากมีการเปิดแคมปัสใหม่อีก 2 แห่ง (สาขานนทบุรีและระยอง) ในเดือนสิงหาคม
ซี่ง SISB เหลื่อมการรับรู้ค่าใช้จ่ายเข้ามาก่อนรายได้ โดยรวมแล้ว ผลการดำเนินงานใน 4Q66 ได้รับแรงขับเคลื่อนหลักจาก i) จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นเป็น 4,197 คน (จาก 4,125 คน ณ สิ้น 3Q66) ii) อัตรากำไรขั้นต้นแข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเทียบ QoQ และ iii) การจัดการได้ดีของสัดส่วน SG&A/รายได้โดยลดเหลือเพียง 18.4% เทียบกับ 19.8% ใน 4Q65 และ 20.7% ใน 3Q66 ส่วนรายด้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 563 ล้านบาท (+44.2% YoY และ +17.8% QoQ) ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นใน 4Q66 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 53.6% เทียบกับ 53.3% ใน 4Q65 และ 44.3% ใน 3Q66
คงมองแนวโน้มเป็นบวกในระยะยาว
เราชอบ SISB ในด้านศักยภาพการเติบโตของโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย โดยมีข้อสนับสนุนจาก i) อุปสงค์ที่มีการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเพิ่มขึ้นในการทำงาน ii) อุปสงค์การศึกษาในขั้นสูงขึ้นและ iii) ความสามารถในการส่งลูกเข้าเรียนโรงเรียนเอกชนโดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติมีมากขึ้น
Valuation and action
เราคิดว่าจากปัจจัยข้างต้นยังดูโดดเด่นต่อเนื่องจากการคาดว่ากำไรปี 2567F จะเป็นสถิติสูงสุดใหม่ ดังนั้น เราคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย DCF ปี 2567 เดิมที่ 43.00 บาท (ใช้ WACC ที่ 9% และ TG ที่4%) โดยที่ปัจจุบันนี้ เรายังคงประมาณการกำไรปี 2567F ที่ 879 ล้านบาท (+34.5% YoY)
Risks
COVID-19 ระบาด เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าคาดและเกิดความขัดแย้งทางการเมือง