วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SAWAD ผลขาดทุนจากสินเชื่อ H/P มอเตอร์ไซค์อยู่ที่จุดสูงสุด และจะสูงต่อเนื่อง
ในขณะที่สินเชื่อขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง กำไรสุทธิของ SAWAD ใน 4Q23 อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท (-8%QoQ, +4% YoY) และ กำไรเต็มปีอยู่ที่ 5.0 พันล้านบาท (+11%)
โดยผลการดำเนินงานที่สำคัญได้แก่ 1) สินเชื่อโตถึง 75% (หรือ +50% ถ้าตัดสินเชื่อ Fast Money ออก) 2) NPL เพิ่มขึ้น 19% QoQ และ 120%YoY 3) credit cost เต็มปีอยู่ที่ 195bps (ใน 4Q66 อยู่ที่ 265bps) เพิ่มขึ้นจาก 14bps ในปี 2566 4) spread ของสินเชื่อลดลงเพราะ yield สินเชื่อลดลง และ ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น
ค่าใช้จ่ายสำรองฯ จากสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ยังสูงต่อในปี 2567-2568
ผลขาดทุนจากการขายรถมอเตอร์ไซค์ที่ยึดมาได้ทำให้ credit cost พุ่งสูงขึ้น และเพิ่มขึ้นติดต่อกันมาสามไตรมาสแล้ว จนทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 265bps ใน 4Q66 และ 194bps ในปี 2566 ซึ่งบริษัทชี้แจงว่าจาก credit cost ที่ 2.65% หรือคิดเป็นเม็ดเงินการตั้งสำรองที่ 1.7 พันล้านบาท ประมาณ 1.2 พันล้านบาทมาจากผลขาดทุนจากการขายรถมอเตอร์ไซค์ที่ยึดมาจากการปล่อยสินเชื่อ H/P โดยผลขาดทุนดังกล่าวเป็นระดับที่สูงที่สุด และมีแนวโน้มจะสูงต่อเนื่องไปตลอดปี 2567 ซึ่งจะทำให้ credit cost ทรงตัวในระดับสูงที่ 180bps ในปี 2567 ทั้งนี้ เพื่อลดผลขาดทุนในอนาคต บริษัทจึงปรับนโยบายการอนุมัติสินเชื่อ โดยปล่อยกู้ด้วยสัดส่วน LTV ที่ลดลง และ เก็บเงินดาวน์ประมาณ 10-40% ซึ่งน่าจะช่วยชะลอกระแส NPL เกิดใหม่
และผลขาดทุนจากการขายรถที่ยึดมาได้
สินเชื่อใหม่ส่วนใหญ่เน้นที่สินเชื่อจำนำทะเบียน
จากความกังวลเกี่ยวกับ NPLs และผลขาดทุนจากการขายรถที่ยึดมา บริษัทจึงปรับกลยุทธ์ด้วยการไม่เร่งขยายสินเชื่อลิสซิ่งรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ แล้วหันไปเน้นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ และรถมอเตอร์ไซค์แทน ซึ่งจากเป้าอัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่ 20% ในปี 2567 ประมาณ 75% ของสินเชื่อใหม่จะเป็นสินเชื่อจำนำทะเบียน ในขณะที่สินเชื่อ H/P รถมอเตอร์ไซค์จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่ง ณ จุดนี้ เราได้รับลดสมมติฐานอัตราการขยายตัวของสินเชื่อปีนี้ลดลงเหลือ 20% เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าของบริษัทและคาดว่าสินเชื่อใหม่ส่วนใหญ่จะมาจากสินเชื่อจำนำทะเบียน
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2567F/2568F ลง 9%/14%และปรับลดราคาเป้าหมายปี 2567F ลง 47 บาท
เราปรับประมาณการกำไรลงเพื่อสะท้อนถึง 1) ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการบันทึกผลขาดทุนจากรถมอเตอร์ไซค์ที่ยึดมาผ่าน credit cost ซึ่งเราใช้สมมติฐานสำหรับปี 2567/2568 ที่ปีละ 180bps (เพิ่มขึ้นจากสมมติฐานเดิมที่ 160bps) 2) สมมติฐาน yield สินเชื่อที่ลดลง 2% เพราะสินเชื่อใหม่ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อ yield ต่ำ ทั้งนี้ เราใช้ PE ที่ 12x (-1.5S.D.) ลดลงจากเดิมที่ 12.5x ทำให้ได้ราคาเป้าหมายปี 2567F ใหม่ที่ 47 บาท (ลดลงจาก 54 บาท) และปรับลดคำแนะนำเป็นถือ
Risks
NPL เพิ่มขึ้น ทำให้ credit cost เพิ่มขึ้น, สินเชื่อโตต่ำกว่าที่คาด และ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น