วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก จับตา PPI สหรัฐ
วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ แรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากสหรัฐ รายงานเงินเฟ้อ (CPI) ที่ +3.2%YoY ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด +3.1%YoY ทำให้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ตามที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้า
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,384.51 จุด +4.88 จุด +0.35% มูลค่าการซื้อขาย 40,297 ลบ.Program Trading +1,289.78 ลบ. ต่างชาติ +1,068.42 ลบ. TFEX +11,498 สัญญา ตราสารหนี้ -437.11 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 37.83 จุด หรือ +0.10% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มบริษัทผลิตชิป ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PPI ของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อก่อนมีการประชุม FED ในสัปดาห์หน้า
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.16 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 79.72 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง และคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันจะได้รับผลกระทบจากการที่ยูเครนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซีย
+ กรมเจ้าท่าเดินหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือวงแหวนอันดามันพื้นที่ชายฝั่งทะเลบริเวณสามเหลี่ยมอันดามันเชื่อมต่อ 3 จังหวัดชายฝั่งได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศในด้านการท่องเที่ยว
+ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอครม.พิจารณาออกมาตรการเสริมสภาพคล่องช่วยเหลือ SME ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ได้แก่ โครงการค้าประกันสินเชื่อพีจีเอส 11 ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) วงเงินค้ำประกัน 50,000 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนนโยบาย อิกไนท์ ไทยแลนด์ ตามนโยบาย ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม 8 ด้านในภูมิภาค
ปัจจัยลบ
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 65% ที่ FED จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมเดือนมิ.ย. ส่วนในการประชุมสัปดาห์หน้า (19-20 มี.ค.) นักลงทุนคาดว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.50%
- อิสราเอลจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในเมืองราฟาห์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา แม้ว่าแรงกดดันจากนานาชาติจะเพิ่มขึ้นก็ตาม
- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คันทรี การ์เดน บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีนพลาดชำระหนี้พันธบัตรหยวนเป็นครั้งแรก ซึ่งซ้ำเติมวิกฤติให้กับบริษัทที่กำลังเผชิญคดีฟ้องร้องเรื่องการบังคับชำระหนี้
- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียมีความพร้อมทางด้านเทคนิคในการทำสงครามนิวเคลียร์ และพร้อมทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ หากสหรัฐเป็นฝ่ายดำเนินการก่อน
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยปี 67 มีแนวโน้มโตต่ำกว่าคาด โดยปรับลดประมาณการ GDP ของไทยปี 67 เหลือ 2.8% จากเดิม 3.1% เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่โมเมนตัมยังแผ่ว ภาคการผลิตยังหดตัวต่อเนื่อง และหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนี PPI ของสหรัฐในคืนนี้ เพื่อหาสัญญาณแนวโน้มเงินเฟ้อ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นแรง หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,380-1,390 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• ฟรีวีซ่าไทย-จีน : AOT AAV MINT CENTEL ERW SPA SKY
• FTSE Large Cap. : เข้า – ออก CPF HMPRO IVL SCGP FTSE Mid Cap. : เข้า CPF HMPRO IVL SCGP ออก - FTSE Small Cap. : เข้า – ออก KEX RABBIT RAM SAMART WORK ใช้ราคาปิด 15 มี.ค.
• BTC ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง : JTS ZIGA BROOK TTA
• ราคายางพาราทำ New High รอบ 3 ปี : STA TRUBB NER TEGH
หุ้นรายงานพิเศษ
XPG "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus - บาท
คาดผลการประกอบการปี 67 เดินหน้าทำสถิติใหม่
•ผลการดำเนินงานปี 66 พลิกมีกำไร 106 ล้านบาทจากขาดทุน 171 ล้านบาทในปี 65 โดยมีรายได้รวม 622 ล้านบาท +579%YoY สัดส่วน 81% เป็นรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล 14% เป็นรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ ที่เหลือเป็นกำไรจากเงินลงทุน ส่วนแบ่งกำไร และรายได้อื่น ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดาเนินงาน +64%YoY อัตรากำไรสุทธิ 17% D/E 0.04x
•เป้ารายได้ปี 67 ราว 1,000 ล้านบาทผ่านบริการด้านวาณิชธนกิจในการออก IPO และ ICO ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิทัล (Brokerage) ธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (Distressed Asset Management) โดยคาดจะมีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนรายได้ดอกเบี้ยลดเหลือ 60% สัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มเป็น 30% และอีก 10% เป็นส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน ปีนี้บริษัทมีแผนเสนอขาย ICO Investment Token 2 รายมูลค่าระดมทุนรวม 3 พันล้านบาท ทำให้เราคาดว่าจะเป็นผลการดำเนินงานที่ยังเติบโตสูงต่อได้อีก
•ความเห็น : XPG ได้รับผลบวกเชิงจิตวิทยาจากราคาคริปโตเคอร์เรนซีที่พุ่งขึ้นทำ all time high ในช่วงนี้ และมติครม.ในการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มในการโอนขายคริปโตเคอเรนซี ขณะที่ราคาหุ้นที่ปรับขึ้น 38% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาทำให้หุ้นซื้อขายที่ P/E 122x สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 18x ขณะที่ prospective P/E มีแนวโน้มลดลงจากผลประกอบการเพิ่มขึ้น แนะนา “ซื้อเก็งกำไร"
หุ้นมีข่าว
(+) EA (Bloomberg consensus 44.50 บาท) ลั่นธุรกิจอีวีพาณิชย์เติบโตแข็งแกร่ง รัฐให้สิทธิพิเศษ ขณะที่กลุ่มโลจิสติกส์หันใช้หัวลากอีวีป้องกันปัญหา CBAM มั่นใจปีนี้ส่งมอบรถ 3-4 พันคัน รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 5-10% ชี้บริษัทอีวีในไทยพร้อมรับงานภาครัฐ เตรียมเปิดตัวรถปิกอัพและรถตู้ไฟฟ้าใน 1-2 เดือนนี้ เร่งขยายกำลังผลิตแบต 2GW ระบุปีนี้รับเงินขายคาร์บอนเครดิตเพิ่ม(ที่มา ทันหุ้น)
(+) CENTEL (Bloomberg consensus 47.75 บาท) เผยปีนี้ปรับขึ้นราคาห้องพักเฉลี่ยแตะ 5.5-5.7 พันบาท จากปีก่อน อยู่ที่ 5.1 พันบาท เหตุพอร์ตโรงแรมเป็น 5 ดาว-ระดับลักซ์ชัวรีมากขึ้น คาดนักท่องเที่ยวเพิ่มหนุนอัตราการเข้าพัก 73% มั่นใจรายได้ปีนี้แตะ 2.4 หมื่นล้านบาท ทุ่มงบใหญ่เท่าตัว 6.5-7 พันล้านบาท ลงทุนโรงแรม-ขยายธุรกิจอาหาร พร้อมเดินหน้าบริหารโรงแรมก้าวสู่ท็อป 100 (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SJWD (Bloomberg consensus 20.60 บาท) ส่งซิกผลงานไตรมาส 1/2567 ฟอร์มแจ่ม รับดีมานด์ทะลักต่อเนื่อง พร้อมปักธงปี 2567 รายได้ทะยาน 12% จากปีก่อน อานิสงส์ธุรกิจทุกไลน์สดใส รับรู้กำไรจากการลงทุนเต็มสูบ แถมเดินหน้าดัน ALPHA เข้าตลาดหุ้น ระดมทุน-เสริมแกร่งระยะยาว คาดได้เห็นชัดเจนปีหน้า (ที่มา ทันหุ้น)
(+) BAFS (Bloomberg consensus 30.00 บาท) เปิดตัว E-VELOX 3400 รถเติมน้ำมันอากาศยาน พลังงานไฟฟ้า 100% (100% EV Hydrant Dispenser) คันล่าสุด นำเทคโนโลยีทันสมัยเพิ่มประสิทธิภาพการเติมน้ำมันเครื่องบินด้วยอัตราการไหลสูง เติมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ลดระยะเวลาการทำงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากรถ EV แบบเดิม (ที่มา ทันหุ้น)