วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Healthcare sector คาดการเติบโตเป็นบวกในปี 2567F

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Healthcare sector คาดการเติบโตเป็นบวกในปี 2567F

แม้ว่าโดยปกติไตรมาสแรกของปี จะเป็นไตรมาสที่ไม่น่าตื่นเต้นนัก แต่เราเชื่อว่าหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลส่วนใหญ่จะมีกำไร 1Q67F เติบโต YoY โดยมีปัจจัยหนุนหลักจาก

i) ผลบวกจากค่าเหมาจ่ายรายหัวของสิทธิประโยชน์จากสำนักงานประกันสังคมเพิ่มขึ้น 10.2% YoY ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 ii) จำนวนผู้ป่วยชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง iii) มีจำนวนผู้ป่วยประเภท intensity มากขึ้น iv) การประหยัดต่อขนาดของโรงพยาบาลต่าง ๆ ด้วยฐานผู้ป่วยขนาดใหญ่และ v) การควบคุมค่า SG&A ได้ดีขึ้น

คาดเห็นการเติบโตในปี 2567F

เรายังคงมองบวกต่อแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องของหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล โดยมีแรงหนุนจาก i) โรงพยาบาลแต่ละแห่งให้บริการรักษาพยาบาลแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ii) เกิดภาวะสังคมสูงวัยในประเทศไทยต่อไปอีก 10 ปีข้างหน้า และ iii) มีความสามารถในการแข่งขันของโรงพยาบาลชั้นนำในแง่ของคุณภาพบริการและราคาสำหรับผู้ป่วยต่างชาติ (เทียบกับคู่แข่งในภูมิภาคและประเทศที่พัฒนาแล้ว) เมื่ออิงจากประมาณการปัจจุบันของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่เราศึกษาอยู่ เราคาดกำไรสุทธิปี 2567F รวมอยู่ที่ 2.65 หมื่นล้านบาท (+10.0% YoY) นอกจากนี้ เราเห็นว่าโรงพยาบาลหลาย ๆ แห่งได้ผ่านขั้นตอนการลงทุนสูงหลายปีมาแล้ว กล่าวคือมีโอกาสจะได้เห็นภาพผลตอบแทนจากการลงทุนชัดเจนขึ้น

สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง

พิจารณาจากหุ้นในกลุ่มนี้ที่เราศึกษาอยู่ เราพบว่าส่วนใหญ่มีสถานะทางการเงินดี เพราะได้ผ่านเฟสของการลงทุนสูงไปแล้วตั้งแต่ก่อนช่วงโควิดระบาด มองในแง่บวก ณ สิ้นปี 2566 BCH*, BDMS*, BH*, CHG* และ EKH* มีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนต่ำถึงมีสถานะเงินสดสุทธิ โดยเมื่อพิจารณาจากราคาเป้าหมาย DCF ปี 2567 ของแต่ละบริษัท, ค่า PE จะอยู่ระหว่างต่ำกว่าที่ 25.3x (EKH) ถึงค่าสูงที่ 37.7x (BDMS) ซี่งPE ยังต่ำกว่าในอดีต (สูงกว่า 40x) ทั้งนี้ เราคิดว่า โรงพยาบาลส่วนใหญจะมีผลการดำเนินงานน่าประทับใจดีต่อเนื่องหลังจากผ่านปีที่มีการลงทุนสูงไปแล้ว อีกทั้งยังมีความกังวลต่อปัญหาสภาพคล่องต่ำลง

 

 

เพิ่มโอกาสทางธุรกิจมากขึ้นสำหรับการรักษาแบบดั้งเดิมและการดูแลสุขภาพแบบใหม่

นอกจากประเทศไทยมีข้อได้เปรียบหลักเชิงแข่งขันในการดูแลรักษาผู้ป่วยเทียบกับคู่แข่งในภูมิภาค เราคิดว่าโรงพยาบาลหลายแห่งจะหาโอกาสทางธุรกิจมากขึ้นเพื่อให้ได้จำนวนผู้ป่วยหลายประเภทสำหรับทั้งการรักษาแบบดั้งเดิมและการให้บริการรักษาแบบทันสมัย (เช่น ศูนยัรักษาผู้มีบุตรยาก (IVF), การผ่าตัดเสริมความงาม, การดูแลแบบประคับประคอง, การรักษาสุขภาพจิต) ขณะที่การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์มีความสำคัญต่อภาคการดูแลรักษาสุขภาพของประเทศไทยหลังจากผ่านช่วงโรคโควิดระบาด  นอกจากนั้น การเร่งตัวขึ้นของจำนวนประชากรสูงวัยเกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งหมายความว่ามีความจำเป็นต้องให้การสนับสนุนในการดูแลสุขภาพเกิดขึ้นทั่วไปทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้น ประเด็นดังกล่าวนับเป็นโอกาสในตลาดที่นักลงทุนจะให้ความสนใจในหมวดโรงพยาบาลในประเทศไทย ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมการดูแลรักษาสุขภาพจะช่วยขับเคลื่อนโดยพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายในการดูแลสุขภาพระดับโลก โดยเฉพาะมีจุดประสงค์เพื่อทำให้ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยแข็งแกร่งขึ้น

Valuation & Action

เราคงให้น้ำหนักการลงทุนที่ Overweight และยังคงให้ BDMS และ BCH เป็นหุ้นเด่นสุดในกลุ่ม ด้วยราคาเป้าหมาย DCF ปี 2567 ที่ 37.50 บาท และ 26.00 บาทตามลำดับ

Risks

COVID-19 ระบาด และเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าคาด

 

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Healthcare sector คาดการเติบโตเป็นบวกในปี 2567F

 

 

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Healthcare sector คาดการเติบโตเป็นบวกในปี 2567F

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Healthcare sector คาดการเติบโตเป็นบวกในปี 2567F

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Healthcare sector คาดการเติบโตเป็นบวกในปี 2567F