วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Bond Yield ขึ้นแรง
วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว sideway ในแดนบวกและลบ หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐ เปิดเผย PCE ออกมาตามที่ตลาดคาด แรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มไอซีที และกลุ่มปิโตรเคมี ที่ได้ประโยชน์จากดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนที่ฟื้นตัว
ประกอบกับเวิลด์แบงก์ หั่นคาดการณ์ GDP ไทยปี 67 เหลือโต 2.8% จากประมาณการเดิมที่ 3.2% รับผลส่งออกแผ่ว-ลงทุนรัฐล่าช้า ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,379.48 จุด +1.54 จุด +0.11% มูลค่าการซื้อขาย 27,471 ลบ. Program Trading +299.77 ลบ. ต่างชาติ +899.74 ลบ. TFEX +13,310 สัญญา ตราสารหนี้ +83.19 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 54 เซนต์ หรือ +0.7% ปิดที่ 83.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับความหวังที่ว่าเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีนจะเป็นปัจจัยหนุนอุปสงค์น้ำมัน และแนวโน้มอุปทานน้ำมันตึงตัวจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปคพลัส และการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในรัสเซีย
+ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเพียง 205,000 ตำแหน่ง ซึ่งชะลอตัวลงหลังจากที่เพิ่มขึ้น 275,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9% ในเดือนมี.ค.
+ สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.3 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 47.8 ในเดือนก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 48.1
+ ททท.คาดมหาสงกรานต์เฟสติวัลยาว 21 วัน ดันเงินสะพัด 52,500 ล้านบาท อีสานครองอันดับ 1 เดินทางมากสุด 3.73 ล้านคน/ครั้ง ภาคตะวันออกทารายได้มากสูงสุด 10,600 ล้านบาท
+ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐได้พิจารณาแผนการคลังระยะปานกลางเพื่อให้สามารถกู้ชดเชย การขาดดุลงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 68 เพิ่มขึ้นเป็น 8.6 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.5 แสนล้าน จากเดิม 7.13 แสนล้านบาท ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ไม่ได้เป็นการกู้เพิ่ม
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 240.52 จุด หรือ -0.60% จากความกังวลเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่แข็งแกร่งเกินคาดและส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้น
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 58% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. ซึ่งลดลงจากระดับ 64% ในสัปดาห์ที่แล้ว
- กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธแบบทิ้งตัว (ballistic missile) จำนวน 1 ลูก โดยประเมินว่าขีปนาวุธจะตกลงสู่น่านน้ำนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของญี่ปุ่น
- หน่วยงานสาธารณสุขญี่ปุ่นเตือนพบผู้ติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส หรือโรคไข้อีดำอีแดง หรือโรคแบคทีเรียกินเนื้อ พุ่งสูงขึ้นในประเทศญี่ปุ่น โดยยอดผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียวปีนี้พุ่งขึ้นประมาณ 3 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
- ธนาคารโลกปรับลดประมาณ GDP นี้ ลงมาอยู่ที่ 2.8% จากเดิม 3.2% และปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปี 68 มาอยู่ที่ 3% จากเดิม 3.1% จากปัจจัยส่งออกที่อ่อนแอการค้าโลกที่ชะลอตัวและการอนุมัติงบประมาณปี 67 ล่าช้า
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้แกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับตัวขึ้นแรง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น พยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,370-1,385 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• ฟรีวีซ่าไทย-จีน : AOT AAV MINT CENTEL ERW SPA SKY
• วุฒิสภาเห็นชอบพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 : CK STEC TASCO CRANE
• หุ้นได้ประโยชน์จากอากาศร้อนจัด : TACC SAPPE ICHI PLUS COCOCO MALEE TIPCO KOOL
• สินค้าส่งออกเดือน ก.พ. ที่เติบโตดี : NER STA TU ITC AAI HANA KCE
• หุ้นเด่น IAA : AOT CK CPALL MINT
หุ้นรายงานพิเศษ
APO : บริษัท เอเชียนน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน)
Mai / Agro & Food Industry
ราคา IPO 0.99 บาท ราคาเหมาะสม Consensus 1.10 - 1.64 บาท
•APO ประกอบธุรกิจ 2 ประเภท ได้แก่ 1) ธุรกิจสกัดน้ำมันปาล์มดิบและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลักจากการสกัดน้ำมันปาล์มดิบและผลพลอยได้ สัดส่วน 99.46% ของรายได้รวม 2) รายได้จากการขายกระแสไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีสัดส่วน 0.54% ของรายได้รวม
•ปี 66 มีรายได้จากการขาย 1,526 ล้านบาท ลดลง 99%YoY กำไรสุทธิ 12.99 ล้านบาท ลดลง 54%YoY เนื่องจากปริมาณขายน้ำมันปาล์มดิบ ลดลง 2%YoY และความผันผวนของราคาวัตถุดิบทะลายปาล์มสด ปี 66 ราคาขายเฉลี่ยน้ำมันปาล์มดิเท่ากับ 30.65 บาท/กก.ลดจาก 41.07 บาท/กก.ในปี 65 และราคาขายเฉลี่ยเมล็ดในปาล์มเท่ากับ 14.36 บาท/กก.ลดจาก 22.23 บาท/กก.ในปี 65 หลังจากการคลี่คลายของการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สงครามรัสเซีย-ยูเครน และปรากฏการณ์เอลนีโญ ทำให้ผู้บริโภคเลิกกักตุน ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือทั่วโลกอยู่ในระดับสูงเป็นผลให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับตัวลดลง ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นในช่วง 1H65 อยู่ในระดับดีมากได้ลดลงในช่วง 2H65 และลดลงมากในปี 66 (%GP ปี 65 = 3% และ 1.16% ในปี 66, %NP ปี 65 = 1.35% และ 0.85% ในปี 66)
•จำนวนหุ้น IPO 100 ล้านหุ้น PAR 0.5 บำท ทุนชำระแล้วหลังเสนอขาย 170 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO เท่ากับ 336.60 ล้านบาท ราคา IPO คิดเป็น P/E 25.92x เทียบกับ P/E กลุ่ม AGRO 23.62x ทั้งนี้ P/E peers ได้แก่ UVAN = 8.64x, UPOIC = 9.95x, VPO n/a เนื่องจากขาดทุน
•วัตถุประสงค์ของการระดมเงินทุน 1) เพื่อลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรในกระบวนการผลิต 2) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
หุ้นมีข่าว
(+) NEX (Bloomberg consensus 14.25 บาท) จ่อประกาศข่าวใหญ่ จับมือค่ายรถยนต์จีนเมษายนนี้ ผุดบิ๊กโปรเจ็กต์ พร้อมบุกต่างประเทศ ตั้งเป้าขึ้นแท่นจำหน่ายรถอีวีเชิงพาณิชย์อันดับ 1 อาเซียน ประเดิม เวียดนาม 20-30 คัน ส่งมอบมิถุนายน 2567 แย้มเร็วๆ นี้จ่อเซ็นสัญญาขายรถให้บริษัทยักษ์ใหญ่ของไทยอีก 1 พันคัน มั่นใจทั้งปีตามเป้า 5.56 พันคัน คาดเน็ตมาร์จิ้นสูงขึ้น หลังโรงงานผลิตมอเตอร์-สายไฟเสร็จ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) MASTER (Bloomberg consensus 74.25 บาท) เดินหน้าเข้าถือหุ้นธุรกิจความงามตามกลยุทธ์ M&P สู่เป้าหมาย Specialty Hospital ตั้งเป้ากำไรจากการลงทุน 10-15% จ่อบุ๊กกำไรบริษัทเข้าถือหุ้นในไตรมาส 3/2567 มั่นใจรายได้ปีนี้โต 20% เตรียมย้ายเข้า SET เอื้อกองทุนถือหุ้น หลังโรดโชว์ได้รับการตอบรับดี (ที่มา ทันหุ้น)
(+) TRUE (Bloomberg consensus 8.80 บาท) เปิดทาง "ทรูมันนี่" ร่วมพาร์ตเนอร์ ลุย Virtual Bank จ่อชิงไลเซนส์ พร้อมเดินหน้าเจาะตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยเต็มพิกัด หวังชิงมาร์เก็ตแชร์แตะ 65% ในปี 2567 จัดงบ 3 หมื่นล้านบาท เสริมทัพธุรกิจเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SABUY (Bloomberg consensus - บาท) SABUY รับ MGI เข้าซื้อหุ้น "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" นั่งรองประธานบริหาร ส่งผลดี ได้คนทำงานมีฝีมือมาช่วย ชี้อีโคซิสเต็มหนุนทั้งระบบ เครือข่ายเพียบ ดัน 2 บริษัท วิน วิน จับตาเปิดเกมรุกธุรกิจขายตรง ใช้ระบบขายตรง และ Dropoff กว่า 2 หมื่นสาขา เป็นหน้าร้านได้ ด้าน MGI ชี้ประโยชน์ที่จะได้จาก SABUY เพียบ (ที่มา ทันหุ้น)