วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงแรงในภาคบ่าย ต่ำสุดราว -18 จุด แต่มีแรงซื้อกลับทำให้ดัชนีลดช่วงลบ เหลือปิด -6 จุด แรงขายกดดัชนี มาจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงราว -3% และกลุ่มไอซีที
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,361.02 จุด -5.92 จุด -0.43% มูลค่าการซื้อขาย 53,908 ลบ. Program Trading -1,573.57 ลบ. ต่างชาติ -340.60 ลบ. TFEX -34,293 สัญญา ตราสารหนี้ +1,978.09 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 22.07 จุด หรือ +0.06% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 5 หลังจากเจ้าหน้าที่ FED ส่งสัญญาณที่สอดคล้องกันว่า FED อาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ +0.05% ปิดที่ 82.73 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจจะไม่ลุกลามเป็นวงกว้าง ขณะที่นักลงทุนประเมินผลกระทบจากการที่สหรัฐคว่ำบาตรอิหร่านและเวเนซุเอลา
+ สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ระหว่าง 12-16 เม.ย.พบว่าคนไทยแห่เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น 20%YoY โดยประเทศจุดหมาย ได้แก่ จีน เวียดนาม ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเอเชียแปซิฟิก
+ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลออกมาตรการเพื่อกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ปี 67 ทั้งการลดค่าโอนและค่าจดจำนองและสินเชื่อบ้าน คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการซื้อที่อยู่อาศัยระดับราคา 3-7 ล้านบาท ให้เกิดการเร่งตัดสินใจซื้อภายในปีนี้
ปัจจัยลบ
- สหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 212,000 รายในสัปดาห์ที่แล้วแม้ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 215,000 ราย
- รัฐบาลสหรัฐประกาศว่าจะไม่ต่ออายุใบอนุญาตผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันของเวเนซุเอลา เนื่องจากผู้นำเวเนซุเอลาไม่ทำตามสัญญาในข้อตกลงการเลือกตั้งที่สหรัฐหนุนหลังเมื่อปีที่แล้ว
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 15.2% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมิ.ย. และให้น้ำหนัก 41.5% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ซึ่งลดลงจากระดับ 48.4% ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
- กลุ่มกบฏฮูตีขยายดินแดนในการใช้ปฏิบัติการทางทหารให้รวมถึงมหาสมุทรอินเดีย และทางตอนใต้ของอิสราเอล จากเดิมที่ทำการโจมตีเรือสินค้าในบริเวณทะเลแดง
- มาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 1 บาทที่จะสิ้นสุดในวันนี้ (19 เม.ย.) หากไม่มีมาตรการอื่นรองรับจะทำให้ราคาน้ำมันดีเซลในวันที่ 20 เม.ย. ปรับขึ้นลิตรละ บาทเป็น 31.44 บาท เบื้องต้นกองทุนน้ำมันฯจะเข้าดูแล ขณะที่ปัจจุบันมีสถานะ ติดลบกว่า 103,620 ล้านบาทจึงช่วยอุดหนุนได้เพียงระยะสั้น
- หุ้นธนาคารที่ส่งงบการเงินงวด 1Q67 มีการตั้งสำรองฯผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพิ่มขึ้น
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นแรง ประกอบกับสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจและตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งทำให้เฟดอาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้ มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,350-1,370 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• ฟรีวีซ่าไทย-จีน : AOT AAV MINT CENTEL ERW SPA SKY
• หุ้นได้ประโยชน์จากอากาศร้อนจัด : TACC SAPPE ICHI PLUS COCOCO MALEE TIPCO
• หุ้นเด่น IAA : AOT CK CPALL MINT
• มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ : SIRI SC ORI LH QH AP
หุ้นรายงานพิเศษ
YGG "ซื้อ" (ราคาเหมาะสม IAA Consensus 9.20 บาท)
"ปี67 คาดรายได้เติบโตสูง จากการได้งานจากลูกค้าต่างประเทศ"
•ปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 69.5 ลบ. -45%YOY มาจากรายได้รวมจำนวน 315 ลบ. -7%YoY สาเหตุหลักจากการขยายงานไปต่างประเทศ บริษัทต้องผ่านกระบวนการทดสอบมาตรฐานของลูกค้าในต่างประเทศ ส่งผลให้รายได้บางส่วนเลื่อนการรับรู้จากในงวด 4Q66 โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้ดังนี้ 1.งานคอมพิวเตอร์กราฟฟิก(VFX) 34% 2.งานเกมส์ 30% 3.งานภาพยนตร์ / แอนิเมชัน 35% มี %GPM เท่ากับ 38.6% ปรับตัวลงจากปี 65 ที่ระดับ 46.4% เนื่องจากการรับรู้รายได้ที่ต่ำกว่าเป้า ในขณะที่ต้นทุนส่วนใหญ่เป็น Fixed Cost ทำให้บริษัทมี %GPM ลดลง ส่งผลให้บริษัทมี %NPM ที่ 22% ลดลงจากปี 65 ที่ 36%
•ความเห็น ปี 67 คาดรายได้ของบริษัทจะเติบโตจากการที่บริษัทได้รับงานใหม่ จากลูกค้าประเทศจีน ที่บริษัทได้ทดสอบมาตรฐานในช่วงที่ผ่านมา รายได้จากการขายภาพยนตร์เรื่อง Home Sweet Home Rebirth และบริษัทมีแผนเปิดตัวเกมส์ใหม่ ชื่อ NINE EYES บริษัทมี Backlog สิ้นปี 67 จำนวน 113 ลบ. (สัดส่วนงานเกมส์ และแอนิเมชัน ราว 75% VFX ราว 25%) คิดเป็นจำนวน 26 โปรเจกต์ โดย IAA Consensus คาดการณ์กำไรปี 67 ราว 185 ลบ. +166%YoY และมีราคาเหมาะสมเฉลี่ย 9.20 บำท upside 18% แนะนำ "ซื้อ"
หุ้นมีข่าว
(+) EA (Bloomberg consensus 45.00 บาท) มอง ขสมก.จัดหารถอีวีเป็นโอกาส ย้ำปีนี้ส่งมอบรถอีวีขั้นต่ำกว่า 5,000 คัน ดันผลงานเติบโตต่อเนื่อง ด้านโบรกมองเป็นบวกช่วยหนุนปริมาณความต้องการใช้งานรถ EV Bus ในไทย พร้อมประเมินการเติบโตของธุรกิจแบตเตอรีหนุนรายได้ในอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)
(+) HARN (Bloomberg consensus - บาท) วางหมากรุกธุรกิจประหยัดพลังงานเต็มสูบ ส่งบริษัทร่วมทุน "ไอยราหาญ" เจาะกลุ่ม IoT ทำเงิน แย้มเจรจาลูกค้าหลายราย แถมหน้าร้อนระบบปรับอากาศ ระบบทำความเย็นขายดี เชื่ออนาคตโตเด่น พร้อมจับตาผลงานปีนี้สดใส เล็งบุ๊กยอดกลับ 10 ล้านบาท ใส่เกียร์ปั๊มผลงานโต 15-20% (ที่มา ทันหุ้น)
(+) NAM (Bloomberg consensus 7.75 บาท) ฟุ้งครึ่งหลังปี 2567 ฟอร์มแจ่ม งานเรียงคิวเพียบ-โปรดักต์ใหม่หนุน พร้อมปักธงปี 2567 รายได้โต 12-15% จากปีก่อน รับฐานธุรกิจขยายตัว พร้อมซุ่มดีลพาร์ตเนอร์รายใหม่ หวังต่อยอดธุรกิจเฮลธ์แคร์เพิ่ม คาดชัดเจนไม่เกิน Q4 นี้ แถมล่าสุดร่วม "Somnics Inc." ยักษ์ใหญ่อุปกรณ์การแพทย์ระดับโลก ลุยขายโปรดักต์แก้ปัญหาการนอน (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SA (Bloomberg consensus - บาท) ส่งซิกไตรมาส 1/2567 เติบโตดี เดินหน้าบุ๊กรายได้โครงการใหม่ต่อเนื่อง มั่นใจโครงการ Landmark At MRTA Station หนุนผลงานปี 2567 โตอย่างก้าวกระโดด จากมูลค่าทยอยโอนปีนี้กว่า 4,000 ล้านบาท คาดรับรู้ทั้งหมด ด้าน Backlog รวมปัจจุบันกว่า 7,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2569 (ที่มา ทันหุ้น)