วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Food and Beverage คาดการณ์ผลประกอบการ 1Q67F มีแนวโน้มปน ๆ กันไป
OSP ฟื้นตัวได้ดี ,SAPPE เติบโตชะลอตัว, ส่วน CBG ฟื้นตัวช้า โดยในส่วนของ Carabao Group (CBG.BK/CBG TB)* เราคาดว่ากำไรใน 1Q67 จะอยู่ที่ 519 ล้านบาท (-20% QoQ, +96% YoY) ซึ่งรายได้จากธุรกิจเบียร์ที่ชะลอตัวลงใน 1Q67F จะกดดันทั้งการเติบโตของทั้งรายได้ และ กำไร QoQ
ในขณะที่ฐานกำไรที่ต่ำใน 1Q66 และ การเติบโตของการส่งออกใน 1Q67F จะทำให้กำไรพุ่งเกินเหตุ YoY สำหรับ Osotspa (OSP.BK/OSP TB)* เราคาดว่ากำไรใน 1Q67F จะอยู่ที่ 792 ล้านบาท (+82% QoQ และ +2% YoY) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่ามาก QoQ จะเป็นเพราะฐานกำไรที่ต่ำใน 4Q66 จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานพิเศษ และ อัตราแลกเปลี่ยน ในขณะที่กำไรที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoYสะท้อนถึงฐานเงินปันผลที่สูงใน 1Q66 เมื่อเทียบกับไม่มีรายได้ส่วนนี้ใน 1Q67 ส่วนในกรณีของ Sappe (SAPPE.BK/SAPPE TB)* เราคาดว่าจะได้แรงหนุนจากการเติบโตของอุปสงค์ตามฤดูกาลที่มาเร็ว โดยการส่งออกไปยังตะวันออกกลางจะตัวขับเคลื่อนรายได้ และ หนุนให้กำไรใน 1Q67F อยู่ที่ 335 ล้านบาท(+100% QoQ และ +22% YoY)
ราคาวัตถุดิบหลักที่เพิ่มขึ้นจะกดดันต้นทุน และ margin ใน 2H67F
เรามองว่าในด้านของต้นทุนการผลิตมีทั้งแง่บวก และ ลบ โดยในแง่บวก ราคาน้ำตาลพลิกกลับมาลดลงซึ่งจะส่งผลดีต่อบริษัทเครื่องดื่มทุกแห่ง แต่จะยังไม่ส่งผลทันทีเพราะราคาน้ำตาลที่ใช้สำหรับการผลิตในปี 2567 ส่วนใหญ่มีการตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้วระหว่างบริษัทเครื่องดื่มกับโรงหีบอ้อย เราคิดว่าน่าจะเริ่มเห็นอานิสงส์ทางด้านต้นทุนที่ลดลงใน 2H67F อย่างไรก็ตาม ในแง่ลบ เราคิดว่าราคาวัตถุดิบหลักสำหรับบรรจุภัณฑ์กระป๋องอลูมิเนียม และ ขวดแก้วมีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ โดยต้นทุนบรรจุภัณฑ์เป็นต้นทุนที่สูงที่สุดในต้นทุนการผลิตรวม โดยคิดเป็นสัดส่วน 35% ของต้นทุนรวมของ CBG และ 40% ในกรณีของ OSP ซึ่งถ้าหากราคายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนการผลิตจะเพิ่มแรงกดดันต่อทั้ง CBG และ OSP เพราะต้นทุนน้ำตาลต่ำกว่าต้นทุนบรรจุภัณฑ์ถึงครึ่งหนึ่ง
ปรับเพิ่มคำแนะนำ OSP เป็นถือ (จากขาย) และ ปรับลดคำแนะนำ SAPPE เป็นถือ (จากซื้อ)
ประมาณการกำไรใน 1Q67F ของเราคิดเป็นประมาณ 23% ของประมาณการกำไรเต็มปีของ CBG, 31%ในกรณีของ OSP, และ 26% ในกรณีของ SAPPE ทั้งนี้ เนื่องจากผลประกอบการมีแนวโน้มจะแข้งแกร่งกว่าที่เราคาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ OSP ในปี 2567/2568 ขึ้นอีกปีละ 4% และ re-rate PE เป็น 27.5x (จากเดิม 25x) เพื่อสะท้อนถึงผลประกอบการ 1Q67F ที่มีแนวโน้มจะฟื้นตัวได้ดีกว่าที่คาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้น เราจึงประเมินราคเป้าหมายปี 2567F ใหม่ที่ 24.50 บาท (เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 20.50 บาท) ทั้งนี้ ในหุ้นกลุ่มเครื่องดื่ม เรายังคงชอบ CBG เพราะเรามองว่ากำไรมีแนวโน้มจะโตได้ดีขึ้นในช่วงท้ายปีจากการฟื้นตัวของธุรกิจเบียร์ นอกจากนี้ เรายังปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น OSP เป็นถือ (จากขาย) ด้วย สำหรับ SAPPE เรา re-rate PE มาอยู่ขอบบนที่ 25x (จากเดิมที่ 24x) ทำให้ได้ราคาเป้าหมายปี 2567F ใหม่ที่ 106 บาท (เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 101 บาท) ทั้งนี้ เนื่องจากเหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายอีกไม่มากแล้ว เราจึงปรับลดคำแนะนำเป็นถือ (จากซื้อ)
Risks
ความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก กระทบ margin เปลี่ยนแปลงไป