วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SPA ประมาณการกำไร 1Q67F: เริ่มต้นปีชะลอตัวลง
เราคาด SPA รายงานกำไรปกติใน 1Q67F อยู่ที่ 59 ล้านบาท (+16% YoY แต่ -31% QoQ) การลดลงของกำไรเทียบ QoQ ส่วนใหญ่เป็นผลของการลดลงของรายได้และผลจากมีค่าใช้จ่ายด้านภาษี
ขณะที่ เราคาดรายได้เติบโต 12% YoY อยู่ที่ 360 ล้านบาทด้วยแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทย อย่างไรก็ตาม คาดว่ารายได้จะลดลง 7% QoQ ถึงแม้ว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 16% QoQ เนื่องจากรายได้จากสาขาในจังหวัดเชียงใหม่ (มีสาขา Let’s Relax อยู่ 3 แห่ง) ได้รับผลลบจากปัญหามลพิษฝุ่น ในขณะที่ การบริโภคภายในประเทศหดตัวก็ส่งผลลบต่อรายได้ของลูกค้าภายในประเทศ (คิดเป็น 40% ของรายได้รวม) จากการขายสินค้าของบริษัทผ่านช่องทางออนไลน์
การกลับมาต้องจ่ายภาษีทำให้กดดันการเติบโตของกำไร
เราคาดว่า SPA จะคงอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ระดับใกล้เคียงกับใน 4Q66 ที่ 31.1% (+3.5ppts YoY) หนุนจากการเติบโตของรายได้จากการบริการสปา ในขณะที่ สัดส่วน SG&A ต่อรายได้น่าจะลดลงเล็กน้อย QoQ อยู่ที่ 9.8% ตามการไม่มีสาขาเปิดใหม่ในไตรมาสนี้ อย่างไรก็ดี หลังจากมีการบันทึกกำไรที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากรายได้ภาษีเงินได้จากผลขาดทุนสะสมที่คาดว่าจะนำมาใช้ (advanced tax income) ที่ 56 ล้านบาทใน 4Q66 ทำให้ SPA อาจกลับมาจ่ายภาษีในอัตรา 20% ของภาษีเงินได้ในไตรมาสนี้ โดยคาดอยู่ราว 15 ล้านบาท
วางแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 2 แห่งใน 2Q67F
SPA วางแผนที่จะเปิดสาขาใหม่อีก 2 แห่งใน 2Q67F โดยตั้งอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าเมกาบางนา (เป็น Let’s Relax หนึ่งสาขา และคลินิก Stretch Me หนึ่งสาขา) ขณะที่ ตามกำหนดมีสาขาอีก 3 แห่งพร้อมจะเปิดใน 3Q67F และมีสาขาอีก 2-3 แห่งอยู่ในกระบวนการหาข้อสรุปอยู่ ทั้งนี้ เราคาดสาขาใหม่ ๆ จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตกำไรของ SPA ในไตรมาสต่อ ๆ ไป แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจัยฤดูกาลในไตรมาสที่สอง น่าจะมีรายได้ต่ำลงเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้
Valuation & action
เราคงคำแนะนำหุ้น SPA เพียงถือ ด้วยราคาเป้าหมายสิ้น 1H68F ที่ 10.20 บาท (อิงจาก PE ที่ 39x หรือเท่ากับค่าเฉลี่ย PER ระยะยาว) ด้วยเหตุที่ กำไรใน 1Q67F ชะลอตัวกว่าเราคาดไว้ก่อนหน้านี้และคิดเป็นเพียง 19% ของประมาณการกำไรเต็มปีนี้ของเรา โดยที่ เราเชื่อว่ายังมีความเสี่ยงด้านต่ำ (downside risk) ต่อประมาณการกำไรปี 2567F ของเราที่ 303 ล้านบาท ทั้งนี้ SPA อยู่ในกระบวนการเพื่อย้ายการซื้อขายไปยังตลาด SET จากปัจจุบันซื้อขายกันอยู่ในตลาด MAI ซึ่งคาดจะย้ายได้เรียบร้อยใน 3Q67F
Risks
การแข่งขันในตลาด ขาดแคลนแรงงานและเศรษฐกิจชะลอตัวลง