วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway UP
วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ขนส่ง ICT และหุ้นกลุ่ม China Play ที่ปรับตัวขึ้นจากการประกาศดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรมจีนออกมาสูงกว่าคาด
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,382.68 จุด +4.96 จุด +0.36% มูลค่าการซื้อขาย 40,241.23 ลบ. Program Trading -60.12 ลบ. ต่างชาติ +831.68 ลบ. TFEX +13,825 สัญญา ตราสารหนี้ -144.49 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 134.21 จุด หรือ +0.34% เหนือระดับ 40,000 จุดเป็นครั้งแรก ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์บวก 1.24%
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ +1.05% ปิดที่ 80.06 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 2% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเพราะได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐที่เพิ่มความหวังเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันมากขึ้น โดยจีนและสหรัฐเป็นสองประเทศผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก
+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่าบรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 68% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกใน เดือน ก.ย.
+ ททท. หารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมมือกันกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรองโดยได้กำหนดเป้าหมายรายได้ท่องเที่ยวที่ 3.3 แสนล้านบาท หรือประมาณ 30% ของรายได้ท่องเที่ยวในประเทศจำนวน 1.2 ล้านล้านบาท
+ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะคงอัตราดอกเบี้ย LPR ที่ระดับเดิม หลังจากมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ปัจจัยลบ
- สหรัฐสั่งห้ามนำเข้าสินค้าจากบริษัทสิ่งทอหรือคลังสินค้าของจีน 26 แห่งในวันพฤหัสบดี (16 พ.ค.) ในฐานะส่วนหนึ่งของความพยายามในการกำจัดสินค้าที่ผลิตขึ้นจากการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์ออกไปจากห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐ
- IMF วิจารณ์การตัดสินใจของคณะบริหารของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ เพื่อปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนบางรายการ พร้อมเตือนว่าความตึงเครียดทางเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศเสี่ยงจะส่งผลกระทบต่อการค้าและการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
- จีนรายงานว่า ราคาบ้านใหม่ในเดือนเม.ย.ลดลง 0.6%MoM ปรับตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 9 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2557 และย้ำแย่กว่าในเดือนมี.ค.ที่ปรับตัวลง 0.3%MoM
- ทางการสหรัฐเตือนว่า องค์กรก่อการร้ายต่างชาติอาจพยายามกำหนดเป้าหมายโจมตีงานอีเวนต์ LGBT ทั่วโลกในช่วงเดือนไพรด์ (Pride Month) ในเดือนมิ.ย. พร้อมเตือนพลเมืองสหรัฐที่อยู่ต่างประเทศให้ เพิ่มความระมัดระวัง
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,375-1,390 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นได้ประโยชน์จากอากาศร้อนจัด : TACC SAPPE ICHI PLUS COCOCO MALEE TIPCO
• Digital Wallet : CPALL BJC CRC DOHOME GLOBAL HMPRO
• ไมโครซอฟท์ ลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ : INSET SYMC INET ITEL TKC
• MSCI Rebalance มีผล 31 พ.ค. : Global Standard หุ้นเข้า – หุ้นออก BTS LH MTC Global Small Cap หุ้นเข้า BTS, JTS, LH, MTC หุ้นออก BLAND, DITTO, FORTH, KSL, MAJOR, PSL, RS, SGP, SPCG, WHAUP
หุ้นรายงานพิเศษ
BDMS "ซื้อ" Bloomberg Consensus 35 บาท มีอัพไซต์ 21% คาดแนวโน้ม
กำไร 2Q67 เติบโต YoY แต่จะอ่อนตัวลง QoQ จากการเข้าสู่ช่วง Low Season
•งวด 1Q67 มีกำไร 4,074 ลบ. +17%YoY +3%QoQ ดีกว่าที่ตลาดคาด 7% มีรายได้จากกิจการโรงพยาบาล 25,526 ลบ. +11%YoY +1%QoQ เติบโตจากผู้ป่วยในประเทศ (สัดส่วน 70%) +10%YoY จากการรักษาโรคระบาดที่เพิ่มขึ้น อาทิ ไข้หวัดใหญ่ และ ไวรัส RSV ซึ่งส่วนใหญ่เกิดในเด็ก ส่วนผู้ป่วยต่างประเทศ (สัดส่วน 30%) +12%YoY จากทั้งกลุ่มชาวจีน +45%YoY ฝรั่งเศส +29%YoY และอเมริกัน +19%YoY นอกจากนี้ รพ.นอกกรุงเทพและปริมณฑลมีอัตราการเติบโตสูง โดยเฉพาะ รพ.ในจังหวัดท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยา ส่วน %EBITDA ปรับดีขึ้นมาที่ระดับ 25.2% (1Q66 = 24.6%, 4Q66 = 24.9%) จากการควบคุมค่าใช้จ่ายและสัดส่วนรายได้ของศูนย์เฉพาะทาง (COE) ที่เพิ่มขึ้น
•ความเห็น เรามีมุมมองเป็นกลางต่อการประชุมนักวิเคราะห์ โดยคาดแนวโน้มกำไร 2Q67 คงเติบโต YoY แต่จะอ่อนตัวลง QoQ จากการเข้าสู่ช่วง Low Season ประกอบกับเป็นไตรมาสที่มีวันหยุดยาว ก่อนจะเข้าสู่ High Season ในไตรมาส 3 ที่เป็นช่วงฤดูฝน อย่างไรก็ตาม คาด Bloomberg Consensus คงประมาณการกำไรทั้งปี 67 ตามเดิมที่ราว 15,687 ลบ. +9%YoY เนื่องจากปัจจัยเติบโตยังคงเป็นไปตามเดิม โดยแผนการเติบโตในปีนี้ คือ 1) ขยาย รพ.ใหม่ 3 แห่ง คือ รพ.พญาไท ศรีราชา2 ขนาด 113 เตียง (เปิดแล้วช่วงเดือน มี.ค.) รพ.เด็กสมิติเวช ขนาด 100 เตียง (ช่วงกลางปี 67) และศูนย์มะเร็ง ที่ จ.ภูเก็ต ในช่วง 3Q67 2) ขยายฐานคนไข้กลุ่มประกันสังคมสู่ 1 ล้านรายในปี 68 (ปัจจุบันราว 8 แสนราย) และ 3) ขยายฐานไปยังกลุ่มซาอุดิอาระเบียมากขึ้น ทั้งนี้ ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 35 บาท มีอัพไซต์ 21% แนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) BGRIM (Bloomberg consensus 32.00 บาท) คาดแนวโน้มไตรมาส 2/2567 โตต่อ จาก ค่าก๊าซลดลง รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าอ่างทอง 2 และ 3 ก้าลังผลิตรวม 280 เมกะวัตต์ต่อเนื่อง แย้มดีลลงทุนในประเทศและต่างประเทศเล็งธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 1-2 พันล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร 3-5 ราย (ที่มา ทันหุ้น)
(+) ORI (Bloomberg consensus 7.60 บาท) เล็งอัพพอร์ตรายได้ประจำ จ่อเปิดโรงแรมใหม่ 1 แห่ง แวร์เฮาส์อีก 4 แห่ง รวมพื้นที่กว่า 3.6 หมื่นตารางเมตร แย้มมีลูกค้าแล้วราว 60% ลุยเปิดตัว 7 โครงการ มูลค่ารวม 1.11 หมื่นล้านบาท หนุนยอดขาย - ยอดโอนไตรมาส 2/2567 โตต่อเนื่อง ย้ำเป้ารายได้รวมทั้งปี 2567 ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% (ที่มา ทันหุ้น)
(+) KLINIQ (ราคาเหมาะสม 46.50 บาท) ชี้ศัลยกรรมเสริมหน้าอกฮอต ติดท็อป 3 ของประเทศ พร้อมเดินหน้าขยายฐานเตรียมเปิดโรงพยาบาลศัลยกรรม คาดชัดเจนปีนี้ เริ่มบริการปีหน้า แย้ม ไตรมาส 2/2567 เตรียมเปิดกระเป๋ารับทรัพย์ 10 สาขาใหม่เต็มที่ กวาดมาร์จิ้น THE KLINIQUE ที่ 55% เล็งเพิ่มบริการรักษาสิวเจาะตลาดแมส (ที่มา ทันหุ้น)
(+) STEC (Bloomberg consensus 10.10 บาท) ลงนาม MOU กับ BGRIM เพื่อโอกาสพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนร่วมกัน เดินตามกลยุทธ์ในการลุยพลังงานทดแทนของ STECON POWER กระจายความเสี่ยงจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เผยเตรียมเงินสดในมือรองรับกว่า ปีละ 2 พันล้านบาท ส่วนธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ยื่นประมูลงานไปแล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้ หวังเติมงานในมือที่มีอยู่กว่า 9 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)