วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก คาดเฟดลดดอกเบี้ยก.ย.
วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ จากความไม่แน่นอนทางเมืองของประเทศไทย มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน จากการประชุมกลุ่ม OPEC+ มีมติขยายระยะเวลาการปรับลดกำลัง การผลิตน้ำมัน กดดันราคาน้ำมันโลก
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,337.32 จุด -8.34 จุด -0.62% มูลค่าการซื้อขาย 45,876 ลบ. Program Trading -926.6 ลบ. ต่างชาติ -2,243.4 ลบ. TFEX -3,132 สัญญา ตราสารหนี้ +992.85 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 140.26 จุด หรือ +0.36% หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอเกินคาดในตลาดแรงงานและตัวเลขภาค การผลิต หนุนคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
+ สหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ลดลงสู่ระดับ 8.06 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี
+นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักกับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ในเดือนก.ย. และปรับลดอีกครั้งในเดือนธ.ค. หลังการเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ
+FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 55.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนก.ย. เพิ่มจากให้น้ำหนักเพียง 41.7% เมื่อสัปดาห์ ที่แล้ว
+ครม. เห็นชอบงบประมาณรายจ่ายประจาปี 67 เพิ่ม 1.22 แสนลบ. ใช้แจกดิจิทัลวอลเล็ตกระตุ้นเศรษฐกิจเบื้องต้นอาจพิจารณาประชาชน กลุ่มเปราะบางผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 14.98 ล้านคน
+ครม.เห็นชอบมาตรการภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยวและการจัดอบรมสัมมนาในจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองภายในประเทศในช่วง Low Season ระหว่าง พ.ค. - พ.ย.
+ครม.อนุมัติแก้ไขกฎหมายการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% สำหรับการสั่งสินค้านำเข้าจากต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท
+กระทรวงคลังเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งภาคท่องเที่ยว และภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยคาดว่าจะเสนอครม. ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้
ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 97 เซนต์ หรือ 1.31% ปิดที่ 73.25 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลว่า กลุ่มโอเปคพลัสจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในช่วง 4Q66 แม้มีสัญญาณบ่งชี้ว่าอุปสงค์น้ำมันในตลาดอ่อนแอลง
- กองทัพเรือสหรัฐระบุว่า กลุ่มฮูตีของเยเมนได้ยิงขีปนาวุธ ต่อต้านเรือ (ASBM) จำนวน 2 ลูกลงสู่ทะเลแดง
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลงเนื่องจาก Fund Flow ที่ไหลออกต่อเนื่อง อีกทั้งความไม่แน่นอนทางการเมือง ในประเทศส่งผลให้นักลงทุนชะลอลงทุน อย่างไรก็ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ 4.4% หลังดัชนีภาคการผลิตสหรัฐอ่อนแอ ส่งผลให้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น สอดคล้องกับ "โกลด์แมน แซคส์" ที่คาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเดือนก.ย. มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,330-1,345 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• Digital Wallet : CPALL BJC CRC DOHOME GLOBAL HMPRO
• ไมโครซอฟท์ ลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ : INSET SYMC INET ITEL TKC
• สินค้าส่งออกเดือน เม.ย. เติบโตดี : AAI ITC STA NER TRUBB XO TFG BTG
หุ้นรายงานพิเศษ
MAGURO - บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
<MAI / AGRO> ราคา IPO 15.90 บาท/หุ้น
ราคาเหมาะสม Consensus 21.60 - 24.00 บาท
• MAGURO ดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มระดับ Premium - Mass ภายใต้เครื่องหมายการค้า “มากุโระ (MAGURO)” “ซัมติง ทูเก็ทเตอร์ (SSAMTHING TOGETHER)” และ “ฮิโตริ ชาบู (HITORI SHABU)” รวมถึงให้บริการจัดส่งอาหาร และรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่
•บริษัท มีรายได้รวมในปี 2564-2566 เท่ากับ 388 ลบ. 666 ลบ. และ 1,046 ลบ. โดยรายได้ที่เติบโตในแต่ละปี มาจากการขยายสาขาใหม่ภายในห้างสรรพสินค้า บวกกับในปี 2564 บริษัทเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 มีการส่งเสริมการขาย และการควบคุมต้นทุนการผลิต %GPM ที่ระดับ 41.57% 41.91% และ 45.17% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 10 ลบ. 31 ลบ. และ 72 ลบ. ตามลำดับ สำหรับงวด 1Q67 มีรายได้ 297.25 ลบ. +25.89%YoY จากจำนวนสาขาเปิดใหม่ 7 สาขา นับตั้งแต่งวด 1Q66 อัตรากำไรขั้นต้น 45.25% กำไรสุทธิ 20 ลบ. +3.55%YoY อัตรากำไรสุทธิ 6.78%
•จำนวนหุ้น IPO 34.06 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 27.03% ของหุ้นทั้งหมด แบ่งเป็นหุ้นที่เสนอขายโดยบริษัทฯจำนวน 21.50 หุ้น หุ้นสามัญเดิมเสนอขายโดย Holistic Impact จำนวน 12.60 หุ้น มูลค่าการเสนอขาย 541.56 ล้านบาท PAR 0.5 บาท ราคา IPO คิดเป็น P/E 27.38X เทียบกับกลุ่ม AGRO ในตลาด MAI 33.45X และบริษัทที่คล้ายคลึงกันได้แก่ AU 50.57X , M 25.35X, ZEN 17.56X
•วัตถุประสงค์ในการระดมทุน 1) ขยายธุรกิจของบริษัท 202.20 ลบ. 2) ปรับปรุงสาขาเดิมและครัวกลาง 32.10 ลบ. 3) การติดตั้ง และปรับปรุงเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และรองรับการขยายตัวของ จำนวนสาขาของบริษัทในอนาคต 16 ลบ. 4) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน 70.62 ลบ.
หุ้นมีข่าว
(+) EKH (Bloomberg consensus 9.25 บาท) แย้มมีดีล M&A ธุรกิจสาธารณสุข หลังขาย บิ๊กล็อตหุ้น "KLINIQ" ดันกระแสเงินสดในมือแข็งแกร่ง ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท เตรียมก่อสร้างโรงพยาบาลจิตเวช รับกระแสผู้ป่วยจิตเวชเติบโตสูง ส่วนธุรกิจ IVF ตั้งเป้าทำได้ 400 เคส ภายในปีนี้ ด้าน OPD-IPD แข็งแกร่ง มั่นใจรายได้โตกว่า 7% (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SINGER (Bloomberg consensus 11.10 บาท) พร้อมเทิร์นอะราวด์ ย้ำพื้นฐานธุรกิจและฐานะการเงินแกร่ง ไม่มีตั้งสำรองขนาดใหญ่แล้ว ชู SG Finance+สินเชื่อมือถือ Lock Phone จะสร้าง S-Curve ให้ SINGER และ SGC เป็นพระเอกหนุนการเติบโต ลั่นผลงานดีกว่าที่คาด นอกจากนี้เตรียมจ่ายคืนหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนกันยายนนี้ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SUN (Bloomberg consensus 4.90 บาท) แย้มยอดขายครึ่งปีหลัง 2567 โตดีกว่าครึ่งปีแรก หนุนจากออเดอร์ที่เลื่อนจากไตรมาส 1/2567 ค่าเงินบาทอ่อนตัว และสงครามที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ พร้อมเดินหน้าออกสินค้าใหม่ๆ ส่งออกต่างแดน เจาะตลาดเกาหลี-ญี่ปุ่น เตรียมการเพิ่มกำลังการผลิตในกลุ่มสินค้าพร้อมทาน (RTE) แตะ 2 เท่าตัวภายในสิ้นปี 2567 นี้ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) BKGI (Bloomberg consensus - บาท) ชูงานเรียงคิวบุ๊กเพียบ หนุนครึ่งหลังปี 2567 ฟอร์มแจ่ม พร้อมปักธงปี 2567 รายได้ทะยาน 30% จากปีก่อน อานิสงส์ฐานลูกค้าเติบโตต่อเนื่อง แถมเล็งเดินหน้า M&A ต่อเนื่อง กรุยทางเสริมพอร์ตรับทรัพย์-ต่อยอดธุรกิจเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)