วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก SET ยังอ่อนแรง

ทำให้สถานการณ์การเมืองยังคงกดดันดัชนี มีแรงขายในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล และพาณิชย์ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,297.41 จุด +0.82 จุด +0.06% มูลค่าการซื้อขาย 38,015.41 ลบ. Program Trading -1,317.39 ลบ. ต่างชาติ -1,740.94 ลบ. TFEX +22,257 สัญญา ตราสารหนี้ -1,624.41 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 56.76 จุด หรือ +0.15% หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาดและเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ว่า FED จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นอินวิเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐ
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.24 ดอลลาร์ หรือ +1.5% ปิดที่ 81.57 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่าความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรปและตะวันออกกลางอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก
+ สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้นเพียง 0.1%MoM ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%MoM โดยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เครื่องมือ FedWatch Tool ของ LSEG บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้
+ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.1% ใน 2Q67
+ ตลท.เริ่มใช้ Uptick ตั้งแต่ 1 ก.ค.พร้อม ปรับเกณฑ์หุ้น ชอร์ตเซลชุดใหม่เริ่ม 21 มิ.ย.

ปัจจัยลบ 

+/- ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ว่ากม.เลือกตั้งส.ว. ทั้ง 4 มาตราไม่ขัดรัฐธรรมนูญ แต่ยังไม่ตัดสินคดีคุณสมบัตินายกฯ-ยุบพรรรคก้าวไกล เลื่อนไปพิจารณาเดือนก.ค.
- ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 1.22 ล้านล้านเยน (7.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนพ.ค. เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าปรับตัวสูงขึ้น

- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC ปรับลดประมาณการ GDP เหลือ 2.5% จากเดิม 2.7% จากหลายปัจจัยลบทั้งความไม่แน่นอน ต่างประเทศ-หนี้ครัวเรือนไทยระดับสูง

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้ยังอ่อนตัวลงต่อเนื่อง โดยนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่อง กดดันดัชนี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นคาดช่วยพยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดดัชนีในวันนี้ที่ 1,290 -1,305 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• สินค้าส่งออกเดือน เม.ย. เติบโตดี : AAI ITC STA NER TRUBB XO TFG BTG
• มาตรการลดภาษีเที่ยวเมืองรอง : ERW CENTEL BA AAV TNP CPALL
• FTSE Rebalancing มีผลปิดตลาด 21 มิ.ย. : FTSE SET Large Cap หุ้นเข้า : BH หุ้นออก : BJC Mid Cap หุ้นเข้า : BJC, BTSGIF, ICHI หุ้นออก : BEC, BH, NEX, SABUY, SCAP,SUPER, TPIPL
• หุ้นที่เข้าคำนวณ SET50 เข้า มีผล 1 ก.ค. : BCP BJC ITC TIDLOR ออก : BANPU COM7 KCE SAWAD SET100 เข้า : BA BJC CKP JAS MBK PRM QH SKY TIPH ออก : AURA BYD FORTH MOSHI NEX ORI SNNP THG TKN

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

JPARK "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" (ราคาเหมาะสม 5.60 บาท)
คาดผลประกอบการปี 67 เติบโตต่อเนื่อง

• คาดผลประกอบการปี 2567 เติบโตโดดเด่น โดยมีสาเหตุหลักจาก 1) ความหนาแน่นของประชากรในเขตเมือง ส่งผลให้ความต้องการใช้บริการที่จอดรถมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น 2) ได้แรงหนุนจากยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศที่ยังเติบโต โดยวิจัยกรุงศรี คาดยอดขายรถยนต์ในประเทศในปี 2567 จะขยายตัว 6% 3) การขยายเส้นทางของรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่ได้บรรจุมาตรการจัดพื้นที่จอดรถไว้ในแผน (ปี 2565-2569) เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง โครงการรถไฟฟ้า สายสีม่วง เป็นต้น 4) อยู่ระหว่างพัฒนา Application “Prompt Park” ซึ่งมีฟังก์ชั่นสำรองที่จอดรถและชำระเงินแบบไร้เงินสด เป็นต้น 5) บริษัทมีแผนนำเงิน IPO ไปลงทุนก่อสร้างอาคารจอดรถและบริหารที่จอดรถในรูปแบบ Build Operate Transfer (ระยะเวลาเช่า 30 ปี) บริเวณโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า 532 ช่องจอด และพื้นที่เชิงพาณิชย์ราว 2 พันตรม.คาดจะแล้วเสร็จในปี 3Q67

•ความเห็น : เรามีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบปี 67 โดยบริษัทตั้งเป้าบริหาร ลานจอดรถในปี 2567 แตะ 40,000 ช่องจอด คิดเป็นอัตราการเติบโตมากกว่า 30% ซึ่งมีความมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยบริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการขยายการบริหารจัดการลานจอดรถให้เพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลที่มีศักยภาพสูง ราคาหุ้นในปัจจุบันสูงกว่า ราคาเหมาะสมปี 2567 ของเราที่ 5.60 บาท แนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”

หุ้นมีข่าว

(0) NRF (Bloomberg consensus - บาท) บิ๊ก NRF ลั่นธุรกิจยังดีหลังราคาหุ้นดิ่งท่ามกลางผลประกอบการบวก เชื่อฝีมือชอร์ตเซล ชี้ยังไม่ได้ถูกบังคับขาย ชูผลงานไตรมาส 2 เติบโตดีได้รับอานิสงส์ค่าเงินบาท คงเป้าโต 30% เดินหน้านำ Bamboo Mart เข้าตลาดแนสแด็กไตรมาส 4/2567 นี้ ด้านโบรกรับมีขบวนการชอร์ตเซลหุ้นที่มีการวางค้ามาร์จิ้น หวังให้ฟอร์ซเซลทำเงิน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PTG (Bloomberg consensus 10.10 บาท) ส่งสัญญาณครึ่งหลังปี 2567 ผลงานปรับตัวดีขึ้น ธุรกิจน้ำมัน-นอนออยล์เติบโต ยืนเป้าหมายปีนี้ยอดขายน้ำมันเติบโต 10-12% จากปีก่อน รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว ผนึกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลุยเป็นเจ้าภาพ MotoGP ที่ประเทศไทย สนามที่ 18 ยกระดับแบรนด์ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CENTEL (Bloomberg consensus 48.00 บาท) ประเมินอัตราเข้าพักไตรมาส 3/2567 ทรงตัวที่ 60-70% และรายได้เฉลี่ยโตราว 40% แม้เป็นช่วงโลว์ซีซัน ปลื้มโรงแรมได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านที่พักหรูหรา เชื่อกระตุ้นจิตวิทยาให้ต่างชาติกลับมาจองห้องพักล่วงหน้าระยะยาว โดยเฉพาะช่วงไฮซีซัน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PRINC (Bloomberg Consensus - บาท) ทุ่ม 700 ล้านบาท ซื้อหุ้น 3 โรงพยาบาล รวม 145 เตียง จาก EVER ทำให้มีโรงพยาบาลในเครือเพิ่มเป็น 18 แห่ง คาดทำรายการเสร็จในไตรมาส 3/67 หนุนรายได้ปีนี้โตตามเป้า 10-15% จากปีก่อน พร้อมเดินหน้าขยายให้ครบ 20 แห่ง (ที่มา ทันหุ้น)