วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี MOSHI ปัญหาสินค้าขาดแคลนเริ่มดีขึ้น

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี MOSHI ปัญหาสินค้าขาดแคลนเริ่มดีขึ้น

เรามีมุมมอง Positive ต่อข้อมูลล่าสุด i) มีความเป็นไปได้สูงที่ในปี 2024F จะเปิดสาขามากกว่าประมาณการเดิมที่คาดว่าทั้งปีจะเปิดได้ 34 สาขา เนื่องจาก 1H24F เปิดไปแล้ว 20 สาขา ii) ปัญหาขาดแคลนสินค้าชั่วคราวมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ SSSG มีโอกาสสูงกว่าที่เราคาด -2%

โดยเราคงประมาณการกำไร 2024F ที่ 500 ลบ. (+25%y-y) และคงคำแนะนำ Buy ที่ TP24F 64 บาท อิง DCF (WACC 7.5%, L-T growth 3%) และให้มองข้ามกำไร 2Q24F ที่สะดุดจากปัญหาขาดแคลนสินค้าชั่วคราว ซึ่งมองว่าปัจจุบันได้รับการแก้ไขและราคาตอบรับไปมากแล้ว โดยมองเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าไลฟ์สไตล์ที่เติบโตเร็วกว่าตลาดค้าปลีกโดยรวม และ MOSHI มีแผนเชิงรุกในภาวะที่คู่แข่งยังชะลอ

ประเด็นสำคัญ

ขยาย Standalone เพิ่มอีก 2 สาขา ใน 2Q24F ได้แก่ i) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ii) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งยังยึดรูปแบบเดิมคือ เปิดบริเวณใกล้มหาวิทยาลัยที่มีนักศึกษาราว 1-1.5 หมื่นคน มีขนาด 80-100 ตร.ม. เบื้องต้น สาขามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีได้รับการตอบรับที่น่าพึงพอใจแม้เป็นช่วงปิดเทอม ขณะที่สาขามหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเพิ่งเปิดวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ สาขารูปแบบ Standalone เป็นปัจจัยที่น่าจับตามอง อาจเป็น New S Curve ต่อภาพระยะยาว สาขาแรกทำได้ดีกว่าคาด (ยอดขายใกล้เคียงสาขา Hyper market ขณะที่ ลงทุนต่ำกว่า และ Payback ทำได้ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 2-3 ปี)

YTD เปิดแล้วรวม 20 สาขา แบ่งเป็น 1Q24 9 สาขา (Standalone 1 สาขา) และ 2Q24F 11 สาขา (Standalone 2 สาขา) ขณะที่ 3Q24F คาด 8-9 สาขา ส่งผลให้ทั้งปีนี้มีโอกาสเปิดได้มากกว่าเป้าหมาย 34 สาขา เท่าประมาณการเราและบริษัท

ปัญหา supply shortage ดีขึ้นต่อเนื่อง หลังประสบปัญหาตั้งแต่มี.ค. จากข้อมูลล่าสุด สินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีนฟื้นกลับอยู่ที่ราว 80-90% ของระดับปกติ ดีขึ้นจากราว 70% ในสัปดาห์ก่อนหน้า และคาดว่าจะกลับมา 100% ได้ภายในเดือน ก.ค. (ทั้งนี้ SSSG เคยแย่สุดในช่วง เดือน พ.ค. ที่ราว -10-15% จากหลายปัจจัย คือ ฐานสูงปีก่อน, สินค้าขาดแคลนชั่วคราวและกำลังซื้อที่อ่อนตัวตามสภาพเศรษฐกิจ) ซึ่งมองว่าจะสามารถผลักดันให้ SSSG 3Q24F ทรงตัวจากปีก่อนหน้าหรือเป็นบวก/ลบเล็กน้อยได้

 

 

ความเห็นและคำแนะนำ

- เรามีมุมมอง Positive ต่อข้อมูลดังกล่าว เนื่องจากจากการเปิดสาขาใน 1H24F ได้มากถึง 20 สาขา ส่งผลให้ทั้งปี 2024F มีความเป็นไปได้สูงที่จะเปิดสาขาใหม่ได้มากกว่าประมาณการเดิมทั้งของเราและบริษัท (34 สาขา) ทั้งนี้ ทุกๆ สาขาใหม่ 5 แห่งที่มากกว่าคาด มีผลต่อกำไร ปี 2024F และ 2025F เพิ่ม 1%

- นอกจากนี้ การเร่งเปิดสาขาขณะที่คู่แข่งชะลอตัว เป็นการเพิ่ม market share และ ความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว อิง Fig 1 พบว่า เราเปิดสาขาได้เร็วกว่าคู่แข่ง และสอดคล้องกับ Channel check ของเราพบว่า คู่แข่งอยู่ระหว่างปรับโครงสร้าง (ชะลอเปิดสาขาแฟรนไชส์ และปิดสาขาบางแห่ง)

- ด้านปัญหาขาดแคลนสินค้าชั่วคราวมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องตามแผนของบริษัท สะท้อนถึงการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ และ SSSG 2024F มีโอกาสสูงกว่าประมาณการเดิมของเราที่ -2% ทั้งนี้ ทุกๆ SSSG 1% ที่มากกว่าคาด มีผลต่อกำไรปี 2024F เพิ่ม 3%

- Outlook ระยะสั้น เบื้องต้นประเมินกำไรสุทธิ 2Q24F ที่ 83 ลบ. (flat y-y, -34%q-q) เป็นไปตาม SSSG ที่คาดว่าจะติดลบ -10% จากหลายปัจจัย คือ ฐานสูงปีก่อน, สินค้าขาดแคลนชั่วคราวและกำลังซื้อที่อ่อนตัวตามสภาพเศรษฐกิจ แต่มองว่า SSSG จะปรับตัวดีขึ้นใน 3Q24F จากสินค้าที่ขาดกลับมาครบตามปกติ 

- คงคำแนะนำ “Buy” และคง TP24F ที่ 64 บาท อิง DCF WACC 7.5%, L-T growth-3% คิดเป็น implied PER24F ที่ 42 เท่า หรือเทียบเท่า +0.5 SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง โดยหุ้นปัจจุบันซื้อขาย PER24F 31x มองว่าสามารถ Trade premium โดยมองเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าไลฟ์สไตล์ที่เติบโตเร็วกว่าตลาดค้าปลีกโดยรวม และ MOSHI มีแผนเชิงรุกในภาวะที่คู่แข่งยังชะลอ

 

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี MOSHI ปัญหาสินค้าขาดแคลนเริ่มดีขึ้น

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี MOSHI ปัญหาสินค้าขาดแคลนเริ่มดีขึ้น