วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ กลุ่มงบแข็งแกร่ง โดยเฉพาะสื่อสารและไฟฟ้าคาดเคลื่อนไหวดีในช่วง ก.ค.

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ กลุ่มงบแข็งแกร่ง โดยเฉพาะสื่อสารและไฟฟ้าคาดเคลื่อนไหวดีในช่วง ก.ค.

ผลการดีเบตผู้สมัครประธานาธิปดีสหรัฐฯ เพิ่มความนิยมให้ทรัมป์ การดีเบตครอบคลุมประเด็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ, ภาษี, กฎหมายอนุญาตทำแท้ง, ผู้อพยพ, สงครามยูเครน (ซึ่งทรัมป์มีจุดยืนไม่สนับสนุนสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน)

ทั้งนี้หลังการดีเบต ผลการสำรวจระบุผู้ชมคิดว่าทรัมป์ทำได้ดีกว่า และคะแนนนิยมของทรัมป์:ไบเดน จากโพลต่างๆอยู่ที่ ทรัมป์ 46-47 ขณะที่ไบเดนอยู่ที่ 44-45  ผลสำรวจจาก PredictIt.org ประเมินทรัมป์มีโอกาสชนะการเลือกตั้ง 60% ขณะที่ไบเดนอยู่ที่ 33% // ทั้งนี้ปฏิกกิริยาฝั่งตลาดทุน หุ้นในกลุ่มพลังงาน การแพทย์ การเงิน ปรับขึ้น ขณะที่กลุ่มอิงพลังงานสะอาดปรับลดลงสะท้อนความเสี่ยงการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่อาจเกิดขึ้น

การเลือกตั้งฝรั่งเศส พรรคฝ่ายขวาได้คะแนนนำ ผลสำรวจเบื้องต้นการเลือกตั้งฝรั่งเศส 30 มิ.ย. จากโพล 5 แห่ง พรรค National Rally ที่เป็นฝ่ายขวา คาดว่าจะได้คะแนนเสียง 33-34.2% ขณะที่พรรคพันธมิตรของประธานาธิปดีมาครง คาดว่าจะได้ลำดับ 3 โดยคาดจะได้คะแนนเพียง 20.3-22.4% ทำให้การเมืองฝรั่งเศสมีโอกาสเปลี่ยนขั้วเป็นกลุ่มที่เน้นนโยบายเศรษฐกิจภายใน และอาจมีแนวโน้มสนับสนุนการรวมกลุ่มลดน้อยลง ค่าเงินยูโร ทั้งนี้จากการไม่มีพรรคไหนได้คะแนนเสียงเกิน 50% ในการเลือกตั้งรอบแรก ผู้สมัครที่ได้คะแนนมากสุดสองคนแรก รวมถึงที่มีคะแนนมากกว่า 12.5% จะเข้าสู่การเลือกตั้งรอบสอง วันที่ 7 ก.ค. ซึ่งผู้ที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดจะชนะ 

การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และเกณฑ์ Uptick rule เป็นบวกต่อความเคลื่อนไหวระยะสั้น ตัวเลขการใช้จ่าย Core PCE พ.ค. +0.0% MoM, +2.6% YoY ใกล้เคียงที่ตลาดคาด หนุนมุมมองการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่การเริ่มใช้ Uptick rule วันนี้ คาดทำให้ปริมาณธุรกรรมขายชอร์ตอาจชะลอ ในเชิงกลยุทธ์กลุ่มสื่อสารและโรงไฟฟ้าที่งบแข็งแกร่งมีแนวโน้มเคลื่อนไหวดีช่วง ก.ค.

ภาพรวมกลยุทธ์ เลือกเก็งกำไรรายตัว ช่วง ก.ค. เรามอง SET เข้าสู่จุดซื้อที่ดีที่สุดในรอบ 12-18 เดือน ข้างหน้า และด้วย Valuation ของ SET ที่แข็งแกร่งในระดับ 1,300 จุด ประเมินความเสี่ยงของการลงอยู่ที่ระดับ 1,270-1,290 และมองการลงแรงถึงระดับ 1,100-1,200 จุด อยู่ในระดับต่ำ // กลุ่มอาหาร สื่อสาร บรรจุภัณฑ์ มีแนวโน้มช่วงสั้นที่แข็งแกร่งกว่าตลาด

แนวรับ: 1,270-1,290 / แนวต้าน : 1,310 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

หุ้นแนะนำ  (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)

SCGP* (37) : ผลประกอบการอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากอุปสงค์ในสินค้าที่ดีขึ้น และต้นทุนการผลิตที่ต่ำลงบวกต่ออัตรากำไร ตัดขาดทุน 32.50 บาท 

ADVANC* (218) : ผลประกอบการฟื้นตัวตามกำลังซื้อ และรายได้เกษตรกร และอยู่ในช่วงที่มีแนวโน้มถูกปรับประมาณการกำไรขึ้น อีกทั้งหุ้นซื้อขายด้วย PER ในโซนต่ำในรอบ 3 ปี  ตัดขาดทุน 207 บาท 

BBGI (10) : ผลประกอบการฟื้นตัวจากธุรกิจไบโอดีเซลล์ และการมีส่วนแบ่งธุรกิจน้ำมันอากาศยานยั่งยืนร่วมกับบางจาก ตัดขาดทุน 6.00 บาท  

SORKON (6) : ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวจากราคาต้นทุนเนื้อสัตว์ที่ลดลง และการปรับปรุงธุรกิจเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ หุ้นซื้อขายด้วย P/S ที่ต่ำ เมื่อเทียบกับกลุ่มอาหารอื่น ตัดขาดทุน 4.40 บาท
 

 

ประเด็นที่น่าสนใจ 

-    PCE +2.6% เดือนพ.ค. สอดคล้องคาดการณ์
-    คะแนนความนิยม โจ ไบเดน ลดลงหลังการโต้วาทีผู้สมัครปธน.สหรัฐฯครั้งแรก 
-    เริ่มใช้มาตรการ Uptick Rule และเป็นวันแรกของการเข้าคำนวณดัชนี SET50-SET100 รอบครี่งปีหลัง 
-    COM7 บวก 4.57% หลังประกาศทุ่มงบ 800ลบ. ซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 40 ล้านหุ้น เริ่มวันนี้
-    RATCH เผยบริษัทย่อยทางอ้อม NXF2 ในสหราชอาณาจักร จดทะเบียนเลิกกิจการแล้ว
-    SAMART แพ้คดี กกท. ศาลสั่งจ่ายหนัก 718 ล้าน 
-    หุ้นติด Cash Balance: YGG เข้าข่าย Cash Balance ระดับ 1 มีผล 1-19 ก.ค. 67
-    SCGP คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 38.00 บาท 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

2 ก.ค. – JOLTs Job Openings/Quits (May)
3 ก.ค. – US ISM Services PMI (June)