วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี AU เติบโตดี มี upside

ซึ่งหมายความว่า AU สามารถจะใช้ประโยชน์จากแบรนด์ และใช้สินทรัพย์ที่มีอยู่ทำกำไรได้มากขึ้น และ (iii) ราคาหุ้น AU สมควรมี premium จากหุ้นอื่นในกลุ่ม เพราะ margin ที่แข็งแกร่ง และการฟื้นตัวของกำไรในปี 2024Fเรายังคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 10 บาท

คาดว่ากำไรใน 2Q24F จะโตถึง 34% yoy และ 7% qoq

เราคาดว่ากำไรของ AU ใน 2Q24F จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง (+34% yoy, +7% qoq) เป็น 58 ล้านบาท เนื่องจาก i) คาดว่า SSSG จะเติบโตที่ +10% จากการที่ลูกค้ารับประทานในร้านเพิ่มขึ้น การออกสินค้าใหม่ รวมถึงมีการขยายสาขาร้านเพิ่ม (มีสาขาใหม่เพิ่มขึ้น 7 สาขา yoy เป็น 63 ร้าน ใน 2Q24F) ii) คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 65.9% เพราะได้อานิสงส์จากการประหยัดต่อขนาด, การออกสินค้าใหม่ และคุม
ต้นทุนได้ดีขึ้น ส่งผลให้สัดส่วน SG&A/ยอดขายลดลงเหลือ 47% และ อัตรากำไรสุทธิ (net profit margin) เพิ่มขึ้นเป็น 15.7%

ร้านสะดวกซื้อจะช่วยปลดล็อกทำให้กำไรเพิ่มขึ้น

กลยุทธ์ของ AU ในการขยายช่องทางจำหน่ายผ่านสาขาร้าน 7-Eleven stores โดยใช้สินค้าที่เป็นที่นิยมอย่าง "ขนมปังเนยโสด" เป็นตัวนำร่องจะทำให้ AU สามารถใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงของแบรนด์ และการผลิตของบริษัทเพื่อเพิ่มผลกำไร เรามองว่าประเด็นนี้จะทำให้ประมาณการกำไรปี 2024-2025F ของเรา มี upside อีก 7-15 ล้านบาท หรือ 3-6% อิงจากสมมติฐานแบบอนุรักษ์นิยมของเราว่าบริษัทสามารถวางจำหน่ายสินค้าผ่านสาขาร้าน 7-Eleven ราว 6,000 สาขาในกรุงเทพเท่านั้น (จากทั้งหมด >14,000 สาขาทั่วประเทศ)

 

คงประมาณการกำไร และ คำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 10 บาท

เราคาดว่ากำไรในงวด 1H24F จะอยู่ที่ 112 ล้านบาท (+94% YoY) คิดเป็น 50% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2024F เอาไว้ที่ 224 ล้านบาท (+26% yoy) นอกจากนี้ เรายังมองว่าแนวโน้มใน 2H24F ดูสดใส จากการออกสินค้าใหม่ และการที่สามารถรักษา margin เอาไว้ได้ อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าผลประกอบการใน 3Q24F จะแผ่วลง qoq เนื่องจากปัจจัยฤดูกาล เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และ ประเมินราคาเป้าหมาย (DCF) ที่ 10 บาท เราคิดว่าราคาหุ้น AU สมควรมี premium เพราะผลการดำเนินงานมีแนวโน้มแข็งแกร่ง จาก SSSG ที่เป็นบวก และ margin ที่สูงกว่าของหุ้นอื่นในกลุ่ม