วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SAWAD ราคาปรับลงมาลึกมาก
เราใช้สมมติฐานว่าการดำเนินงานของบริษัทนอนแบงก์จะยังถูกกดดันจากประเด็นคุณภาพสินทรัพย์และค่าใช้จ่ายตั้งสำรองฯ (credit cost) จากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์หนี้ครัวเรือนตึงตัว
เราจึงคาดว่า SAWAD น่าจะประสบปัญหาเดียวกัน อย่างไรก็ตามภายใต้การจัดการหนี้เสียรายใหม่ และการจัดการรถยึดที่สร้างผลขาดทุน เราเชื่อ SAWAD อาจจะเจอแรงกันที่น้อยกว่า เนื่องจากราคารถมอเตอร์ไซด์มือสองที่ราคาไม่ได้ลดลงเหมือนเช่นรถยนต์ ทั้งนี้ SAWAD มีสินเชื่อที่ใช้มอเตอร์ไซด์เป็นหลักประกันมากที่สุด
(สินเชื่อจำนำทะเบียนมอเตอร์ไซด์ และสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซดฺ) คิดเป็น >50% ของสินเชื่อ
PE ของหุ้น SAWAD มี discount จาก MTC ถึง 40% และ ต่ำกว่าหุ้นอื่นในกลุ่มถึง 31%
SAWAD ภายใต้แรงกดดันขาดทุนจากการขายรถยึดได้กดดันราคาหุ้น SAWAD มากเกินไปจนทำให้ PE
ลดลงต่ำมาก เทียบเท่า PE 10 เท่า ซึ่งกว่า PE ของ MTC ถึง 40% และต่ำกว่า PE ของ TIDLOR มากกว่า
30% นับเป็นส่วนต่าง PE ที่มากกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 5 ปี เกือบเท่าตัว
คาดว่าประกอบการใน 2Q67F จะทรงตัว QoQ และ เพิ่มขึ้น 11% YoY
เราคาดกำไร 2Q67F ที่ 1.3 พันล้านบาท ทรงตัว QoQ +11% YoY, และกำไร 1H67F อยู่ 2.5 พันล้านบาท
(+8%) ซึ่งรวมผลขาดทุนรถยึดประมาณ (LOS) 480 ล้านบาท สัดส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงาน/รายได้ (C/I
ratio) อยู่ที่ 46% (เท่ากับไตรมาสก่อน) และ ทำให้ค่าใช้จ่ายสำรองฯ (credit cost) รวมอยู่ที่ 3.9% (รวม LOS
แล้ว)
ปรับประมาณการกำไรปี 2567F/2568F ลงปีละ 4%, ประเมินราคาเป้าหมายปี 2567F ที่ 45 บาท, ปรับเพิ่ม คำแนะนำเป็นซื้อ
การปรับประมาณการของเราสะท้อนถึง LOS ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้สัดส่วน C/I เพิ่มขึ้นเป็น 46% (จากประมาณการเดิมที่ 45.5%) ทั้งนี้ จากการที่พอร์ตสินเชื่อของ SAWAD เน้นสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์โดยคิดเป็น >50% ของพอร์ตสินเชื่อรวม ในขณะที่ราคารถมอเตอร์ไซค์มือสองค่อนข้างนิ่งเมื่อเทียบกับราคารถยนต์มือสองที่ลดลงถึง >20% YoY เราจึงคิดว่าคุณภาพสินทรัพย์ของ SAWAD น่าจะทรงตัว ซึ่งเมื่อใช้ PE ที่ 13x ทำให้เราได้ราคาเป้าหมายปี 2567F ใหม่ที่ 45 บาท และ ปรับเพิ่มคำแนะนำจากถือเป็นซื้อ
Risks
LOS เพิ่มขึ้นสูงกว่า 1.4% ของสินเชื่อรวม และ credit cost >4%, เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า.