วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตาผลกำไรของ บจ. สหรัฐฯ (กลุ่ม 7 นางฟ้า)

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตาผลกำไรของ บจ. สหรัฐฯ (กลุ่ม 7 นางฟ้า)

ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways Down แนวรับ 1,310/1,304 จุด แนวต้าน 1,332/1,346 จุด ภาพระยะสั้น แม้ดัชนีฯ ยังคงเคลื่อนไหว Sideways บริเวณ 1,317-1,323 จุดต่อเนื่องเป็นวันที่ 9

แต่การสร้างระดับต่ำสุดของวัน และสูงสุดของวัน (Lower Low, Lower High) ที่ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ทำให้ดัชนีฯ มีโอกาสสูงที่จะปรับตัวลดลง และเกิดรูปแบบ M-Shape ไปที่ 1,292 จุด เราแนะนำ ขาย เพื่อรอซื้อคืนเมื่อเกิดสัญญาณ Break Out

ประเด็น Event สำคัญวันนี้

US: 2Q24E Earnings Results จับตา รายงานผลกำไร Alphabet คาด EPS USD 1.83 Vs Previous USD 1.44; Tesla คาด EPS USD0.60 Vs Previous USD0.91 รวมถึงบจ. สำคัญอื่น ๆ ได้แก่ Visa คาด EPS USD2.42 Vs Previous USD2.16; Coca-Cola คาด EPS USD0.80 Vs Previous USD0.78; Texas Instruments คาด EPS USD 1.16 Vs Previous USD1.87 ฯลฯ

TH Earnings Results: SCGP อิง IAA Consensus ให้ราคาเป้าหมายที่ 40.06 บาท โดยมี 14 โบรกเกอร์แนะนำ ซื้อ บนคาดการณ์กำไรสุทธิ 6.20 พันล้านบาท และเพิ่มเป็น 7.05 พันล้านบาท ในปี 24-25E

TH: ผลประชุมครม. คาดมีข่าวดีจากการอนุมัติโครงการ TESG ใหม่ หลังจากล่าช้ามาจากสัปดาห์ก่อนหน้า รวมถึงอาจมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ใหม่ ซึ่งจะเป็นแรงหนุนตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือปีนี้

US: สภาสหรัฐฯ พิจารณาประเด็นการลอบสังหารทรัมป์

India: นายกฯ โมดิ แถลงนโยบายและงบประมาณประจำปี ต่อสภาฯ

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตาผลกำไรของ บจ. สหรัฐฯ (กลุ่ม 7 นางฟ้า)

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตาผลกำไรของ บจ. สหรัฐฯ (กลุ่ม 7 นางฟ้า)

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ 

US Existing Home Sales เดือน มิ.ย. คาด +3% MoM เป็น 4 ล้านหน่วย (Vs เดือน พ.ค. -0.7% MoM เป็น 4.11 ล้านหน่วย)

EU Consumer Confidence (Flash) เดือน ก.ค. คาดลดลงต่อเนื่องเป็น -14.7 (Vs เดือน มิ.ย. -14.0) สะท้อนความเสี่ยงของเศรษฐกิจอียูชะลอตัว และเพิ่มโอกาสต่อ ECB ในการปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. (ปัจจุบันให้โอกาส 80%)

 

 

Weekly Strategy: มุมมองต่อ SET Index

ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของ USD ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจมีแนวโน้มอ่อนลงบ้าง หากการรายงาน US 2Q24 GDP Growth ของสหรัฐฯ (วันพฤหัสบดี) ออกมาดีกว่า Consensus คาด ที่ 1.8% QoQ (ซึ่งต่ำกว่ามากเทียบกับคาดการณ์ +2.7% QoQ ของ FED Atlanta ผ่านแบบจำลอง GDP Now) และการแทรกแซงค่าเงินเยนของทางการญี่ปุ่น ที่มีโอกาสลดระดับความเข้มข้นลง หลังสกุลเงินเยนแข็งค่ามาแล้ว 3.4% จากระดับสูงสุด 161.82 เยน/USD เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ซึ่งจะหนุนให้ดัชนีค่าเงิน USD มีแนวโน้มรีบาวนด์กลับ อย่างไรก็ตาม ด้วยเศรษฐกิจภายในประเทศของไทย ที่ยังมีทิศทางฟื้นตัวต่อเนื่อง (สัปดาห์นี้มีการประกาศตัวเลขส่งออกเดือน มิ.ย. ซึ่งคาดฟื้นตัวตามคู่ค้า) และระดับดัชนี SET Index ที่ยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานอยู่มาก สะท้อนจาก MRP ที่ 4.77% ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 90 วัน (4.46%) ใกล้เคียงระดับ +2 S.D. (Figure 2) ดังนั้น เราประเมินว่ากระแสเงินทุนต่างชาติ ยังคงมีแนวโน้มไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทย (ต่างชาติเปิด Long SET50 Index Futures หุ้นไทยต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 ด้วยปริมาณสะสมสูงถึง 7,943 สัญญา ทำให้สถานะ YTD เปลี่ยนจากฝั่งขาย มาเป็นฝั่งซื้อแล้ว)

กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้

แนะนำ “ซื้อ” หุ้นในธีม Bottom-out ที่ Consensus มีการเพิ่มปรับประมาณการ EPS ขณะที่ราคาหุ้นยังได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงระยะสั้น ทำให้ Equity risk premium (ERP) อยู่ในระดับสูง และเก็งกำไรการรายงานตัวเลขส่งออก (อิเล็กทรอนิกส์)

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำหุ้นที่มีประเด็นบวก ได้แก่ BEM BDMS HANA

 

Strategic daily picks

BEM    ปิด 7.85 บาท/แนวรับ 7.30 บาท แนวต้าน 8.20 บาท

บริษัทเตรียมสั่งซื้อขบวนรถไฟฟ้า จำนวน 51 ขบวน ภายในสิ้นปี 2024 หลังเป็นผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และเร่งติดตั้งระบบ เปิดให้บริการเฟสแรก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินวงศ์) ในช่วงปลายปี 2027 พร้อมเร่งเปิดให้บริการตลอดเส้นทาง ทั้งส่วนตะวันออกและตะวันตก ให้แล้วเสร็จก่อนกำหนดในเดือน พ.ย. 2030 ต่อไป โดยมีอายุสัมปทาน 30 ปี นับจากวันเริ่มงาน ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิใน 2Q24 ที่ 968 ล้านบาท (+7.47% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 10.65 บาท

BDMS    ปิด 26.75 บาท/แนวรับ 25.50 บาท แนวต้าน 29.00 บาท

จากกรณีที่กระทรวงมหาดไทยออกประกาศวีซ่าฟรีสำหรับนักท่องเที่ยว 93 ประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. 2024 ที่ผ่านมา บริษัทคาดว่าจะส่งผลดีต่อกลุ่มโรงพยาบาลในเครือ BDMS ที่มีเครือข่ายให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ ขณะที่ผลการดำเนินงานใน 2Q24 ยังคงเป็นไปตามแผนงาน พร้อมยังคงเป้าหมายทั้งปี 2024 มีรายได้จากการบริการทางการแพทย์เติบโต 10-12% YoY ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิใน 2Q24 ที่ 3.38 พันล้านบาท (+10.21% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 34.85 บาท

HANA   ปิด 47.00 บาท/แนวรับ 45.00 บาท แนวต้าน 49.50 บาท

HANA มองว่ารายได้ 1Q24 ถึงจุดต่ำสุด และมองเห็นอุปสงค์ที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องสำหรับธุรกิจแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCBA) ด้วยแรงหนุนจากอุปสงค์ที่ดีในกลุ่มยานยนต์, อุตสาหกรรมและการแพทย์ โดยคาดแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปใน 2Q24 ขณะเดียวกันอุปสงค์ที่อ่อนแอสำหรับธุรกิจบริการเข้าแพ็กเกจชิป (OSAT) เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวในปลาย 2Q24 เนื่องจากลูกค้ามีสต็อกคงเหลือน้อยและเริ่มกลับมาสั่งออเดอร์เพื่อเติมสต็อก ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิใน 2Q24 ที่ 477 ล้านบาท (-24.95% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 49.09 บาท

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตาผลกำไรของ บจ. สหรัฐฯ (กลุ่ม 7 นางฟ้า)