วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BBL การมีสำรองฯสูงยังเป็นตัวช่วยรับหนี้เสียที่สูงขึ้น

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BBL การมีสำรองฯสูงยังเป็นตัวช่วยรับหนี้เสียที่สูงขึ้น

ธุรกิจในประเทศมีความท้าทายมากขึ้น อาจทำให้ค่าใช้จ่ายสำรองฯ (credit cost) ลดได้ช้า

การที่ประเทศไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันมาหลายปีต่อเนื่องตั้งแต่ COVID ทำให้มีความเสี่ยงในคุณภาพสินทรัพย์ของสินเชื่อภาคอุตสาหกรรมมีมากขึ้น ซึ่งสินเชื่อส่วนนี้คิดเป็น 30% ของสินเชื่อรวมของ BBL นอกจากนี้ การที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าอาจจะเป็นปัจจัยให้ BBL ยังคงค่าใช้จ่ายสำรองฯ (credit cost) ไว้ในระดับสูงใน 2H67 เพื่อเพิ่มส่วนรองรับหนี้เสีย ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการค่าใช้จ่ายสำรองฯ (credit cost)เป็น 1.3%/1.2% (จากเดิม1.0%/0.9%)

ธุรกิจต่างประเทศยังคงเป็นตัวจักรสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโต

BBL เป็นเพียงธนาคารเดียวที่มีธุรกิจในต่างประเทศที่นัยต่อสินทรัพย์รวม ในขณะที่ธนาคารอื่นๆ ยังไม่สามารถทำได้ โดยธนาคารลงทุนต่างประเทศ ผ่าน 2 แพลตฟอร์ตได้แก่ i) ปล่อยสินเชื่อในต่างประเทศผ่านสาขาของธนาคารกรุงเทพในตลาดต่างประเทศ คิดเป็นประมาณ 20-25% ของพอร์ตสินเชื่อ BBL ii) ลงทุนโดยตรงในธนาคารในอินโดนีเซีย/Permata Bank ซึ่งคิดเป็น 13% ของพอร์ตสินเชื่อ และ 15% ของกำไร BBL ทั้งนี้ สินทรัพย์ในต่างประเทศมีสัดส่วนรวมกัน 30% ของสินเชื่อรวม และ กำไรสุทธิของ BBL โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กำไรของ Permata Bank โตถึง 40% ในปี 2565 และ 25% ในปี 2566 ซึ่งปัจจัยบวกนี้เราเชื่อยังไม่ได้ถูกรวมในมูลค่าหุ้น

มาร์จิ้นลดลงได้อยู่ในประมาณแล้ว

ถึงแม้ว่าธุรกิจในต่างประเทศจะเผชิญความท้าทายมากขึ้นเพราะมาร์จิ้นถูกกดดันจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอินโดนีเซีย และ จีน แต่เราคาดว่าผลการดำเนินงานของธุรกิจในต่างประเทศน่าจะยังไปได้ดี เราคาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ยซึ่งจะทำให้ NIM ในปี 2567/2568 อยู่ที่ 2.89%/2.83% โดยสมมติฐานว่า NIM ในงวด 2H68 จะลดลงเหลือ 2.78% จาก 3.06% ใน 1H67

 

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2567/2568 ลงปีละ 4% และ ปรับราคาเป้าหมายปี 2567F เหลือ 176 บาท

เราใส่ความเสี่ยงที่คุณภาพสินทรัพย์ในส่วนของสินเชื่อภาคอุตสาหกรรมจะเสื่อมถอยลง ซึ่งทำให้เราปรับเพิ่มสมมติฐานค่าใช้จ่ายสำรองฯ (credit cost)ปี 2567/2568 เป็น 1.3%/1.2% (จากเดิม 1%/0.9%) นอกจากนี้ เรายังปรับลดสมมติฐานสัดส่วน C/I เหลือ 47%/48% (จากเดิมที่ 48% ทั้งสองปี) ทั้งนี้ เมื่อใช้ PBV ที่ 0.6x ทำให้เราได้ราคาเป้าหมายปี 2567F ที่ 176 บาท เราแนะนำซื้อ BBL เพื่อสะท้อนถึงส่วนรองรับหนี้เสียที่สูง และ ความสามารถในการกระจายธุรกิจออกไปนอกประเทศไทย ซึ่งศักยภาพในการเติบโตชะลอตัวลง

Risks

NPL จากภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายสำรองฯเพิ่ม มาร์จิ้นลดลงแรง 

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BBL การมีสำรองฯสูงยังเป็นตัวช่วยรับหนี้เสียที่สูงขึ้น

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BBL การมีสำรองฯสูงยังเป็นตัวช่วยรับหนี้เสียที่สูงขึ้น

 

 

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BBL การมีสำรองฯสูงยังเป็นตัวช่วยรับหนี้เสียที่สูงขึ้น