วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ RBF ประมาณการ 2Q67F: เป็นไตรมาสที่อ่อนแรง

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ RBF ประมาณการ 2Q67F: เป็นไตรมาสที่อ่อนแรง

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ RBF ใน 2Q67F จะอยู่ที่ 126 ล้านบาท (-18% YoY, -27% QoQ) โดยคาดว่ายอดขายรวมจะเพิ่มขึ้น 4% YoY แต่ลดลง 6% QoQ เป็น 1.08 พันล้านบาท ซึ่งสาเหตุสำคัญคือการส่งออกไปจีนลดลง

ทั้งนี้ ดัชนีเศรษฐกิจจีนล่าสุดบ่งชี้ว่าอุปสงค์การบริโภคกำลังลดลง โดย GDP ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงที่  4.7% ใน 2Q67 จาก 5.3% ใน 1Q67 และ ยอดค้าปลีกโตขยายตัวเพียง 2.0% ในเดือนมิถุนายน จาก 3.7% ในเดือนพฤษภาคม (Figure 7-8) อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ายอดขายในประเทศจะยังคงเพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในกลุ่มเครื่องดื่ม และ การออกสินค้าใหม่ (Hello Boy) GPM น่าจะได้รับผลกระทบจากโครงสร้างยอดขาย เพราะยอดขายในจีนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัตถุแต่งสีกลิ่นรส ซึ่งมีอัตรากำไรสูงกว่ากลุ่มสินค้าอื่น เราคาดว่า GPM จะลดลง 0.9ppts YoY และ 1.4ppts QoQ เหลือ 35.8% นอกจากนี้ ยังคาดว่า RBF จะบันทึกผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 3 ล้านบาทในไตรมาสนี้ จากที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 4 ล้านบาทใน 2Q66 และ 21 ล้านบาทใน 1Q67

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ RBF ประมาณการ 2Q67F: เป็นไตรมาสที่อ่อนแรง

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ RBF ประมาณการ 2Q67F: เป็นไตรมาสที่อ่อนแรง

 

สินค้าใหม่ และ ต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงจะเป็นปัจจัยสนับสนุนในงวด 2H67F

เราคาดว่ากำไรของ RBF จะต่ำสุดใน 2Q67F และ ฟื้นตัวขึ้นใน 2H67F ถึงแม้ว่าอุปสงค์จากจีนจะยังไม่น่า
ฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ แต่ระดับใน 2Q67F น่าจะเป็นฐานที่ต่ำสำหรับ RBF ในระยะต่อไป นอกจากนี้ RBF ยังจะได้แรงกระตุ้นจาก Hello Boy โดยสินค้าใหม่แบบบรรจุซองจะวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในเดือนสิงหาคมอีกด้วย ในขณะเดียวกัน ราคาวัตถุดิบก็ยังอยู่ในเกณฑ์ดีกับบริษัท โดยราคาข้าวสาลีในตลาดโลกลดลง 10% QoQ ใน 3QTD67 นอกจากนี้ RBF จะทยอยการผลิตสินค้ากลุ่มแป้งชุบทอดไปที่โรงงานใหม่ในอินโดนีเซีย ซึ่งจะได้อานิสงส์จากต้นทุนแป้งสาลีที่ลดลง และ สิทธิประโยชน์ทางภาษี (tax shield)

 

 

ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2567F-2568F ลง 26%-27%

เนื่องจากผลการดำเนินงานในงวด 1H67F อ่อนแอ ในขณะที่จีนก็มีแนวโน้มจะอ่อนแอลง เราจึงปรับลด
ประมาณการกำไรสุทธิของ RBF ในปีนี้ลง 27% เหลือ 667 ล้านบาท (+3% YoY) และ ในปี 2568F ลง 26% เหลือ 792 ล้านบาท (+19% YoY) เนื่องจาก i) เราปรับลดประมาณการยอดขายปีนี้ลง 6% และ ปีหน้าลง 8% ii) เราปรับลดสมมติฐาน GPM ปีนี้ลง 2.9ppts เหลือ 37.3% และ ปีหนา้ ลง 3.4ppts เหลือ 37.7%

Valuation & action

เรายังคงคำแนะนำซื้อ RBF เพราะคิดว่าราคาหุ้นที่ตกลงมาแรงในช่วงนี้สะท้อนแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอใน 2Q67F ไปมากแล้ว เรามองว่า RBF ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวจากการเติบโต
ของตลาดต่างประเทศ (อินเดีย และ อินโดนีเซีย) และในประเทศ (Hello Boy) เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมาย
ปี 2568 ที่ 10.80 บาท ลดลงจากเดิมที่ 14.50 บาท จากการปรับลดประมาณการกำไรลง และ de-rate PER
เหลือ 27x (adjusted PER เฉลี่ยระยะยาว) จากเดิม 32x หรือ +0.5S.D

Risks

ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น, ต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้น และ เศรษฐกิจถดถอย

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ RBF ประมาณการ 2Q67F: เป็นไตรมาสที่อ่อนแรง

 

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ RBF ประมาณการ 2Q67F: เป็นไตรมาสที่อ่อนแรง

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ RBF ประมาณการ 2Q67F: เป็นไตรมาสที่อ่อนแรง

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ RBF ประมาณการ 2Q67F: เป็นไตรมาสที่อ่อนแรง