วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ DELTA ยังคงได้อานิสงส์จากกระแสโลก
หลังจากที่ยอดขายของ DELTA โต 12% YoY ในงวด 1H67 บริษัทยังคงเป้าอัตราการเติบโตของยอดขายปี 2567 เอาไว้ที่ 10-20%
เนื่องจากคาดว่าอุปสงค์ของ data center จะทยอยเพิ่มขึ้น (~ 30% ของรายได้รวม) ในขณะที่คาดว่าอุปสงค์ของกลุ่มยานยนต์ (~30% ของรายได้รวม) โดยเพาะจากสหรัฐ ยังคงไม่แน่นอน และ จำกัดแนวโน้มการเติบโตในระยะสั้นจากอุปสงค์ที่แผ่วลง เราคาดว่าอุปสงค์ที่ฟื้นตัวขึ้นใน EU จะช่วยชดเชยอุปสงค์ที่อ่อนแอจากสหรัฐไปได้บางส่วน ในขณะที่คาดว่าอุปสงค์สินค้าที่เกี่ยวข้องกับ AI น่าจะฟื้นตัวขึ้นได้เช่นกัน (เป็นเลขหลักเดียวเมื่อเทียบกับรายได้รวม) อย่างไรก็ตาม สินค้าเหล่านี้ส่วนใหญ่มีการพัฒนาที่ซ้ำซ้อนกันระหว่าง DELTA Thailand และ DELTA Taiwan ซึ่งหมายความว่าค่าใช่จ่ายน่าจะเพิ่มขึ้น (ค่า royalty/ บริการทางเทคนิค)
ตั้งเป้า GPM ไว้ที่ 23-24% โดยสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายอาจจะขยับสูงขึ้น
ถึงแม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ DELTA จะอยู่ที่ 26.9% ใน 2Q67 แต่บริษัทมองแบบอนุรักษ์นิยม และ ตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นไว้ในช่วง 23-24% เนื่องจาก i) อุปสงค์จากกลุ่มยานยนต์ยังมีความไม่แน่นอน ซึ่งอาจจะทำให้ต้องตั้งสำรอง และ ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลง ii) ความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยน และ iii) สถานการณ์วัตถุดิบไม่เอื้ออำนวย ในขณะเดียวกัน คาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายจะอยู่ในช่วง 12.0-12.5% ในงวด 2H67 เพิ่มขึ้นตามยอดขายของสินค้าที่ซ้ำซ้อนกัน
จะได้อานิสงส์จากกระแสโลก
บริษัทกำลังพัฒนาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ AI ร่วมกับลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้ยอดขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ AI เพิ่มขึ้นโดยไม่มี / ลด ค่าใช้จ่าย (royalty fee) ที่ต้องจ่ายให้กับ DELTA Taiwan โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตสินค้าได้บางส่วนภายในสิ้นปีนี้ แต่เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ดังนั้น สัดส่วนต่อยอดขายจึงน่าจะยังต่ำมาก สำหรับแนวโน้มในระยะสั้น คาดว่ายอดขาย และ อัตรากำไรขั้นต้นจะยังดีอยู่ แต่ค่าใช้จ่าย SG&A น่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน (เราคาดว่ากำไรใน 3Q67-4Q67 จะเพิ่มขึ้น YoY) ส่วนภาพในระยะยาว บริษัทน่าจะได้อานิสงส์จากกระแสโลก และ อัตรากำไรข้นต้นที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A ยังอยู่ในระดับที่คุมได้อยู่
Valuation
เรายังคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ไว้ที่ 99.00 บาท อิงจาก PER ที่ 55.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต +0.50 S.D.) และ ยังคงคำแนะนำ “ถือ” DELTA
Risks
ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น
