วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.

เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยตามตลาดคาด คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้

ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมกับระบุในแถลงการณ์ว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เงินเฟ้อมีความคืบหน้าในการปรับตัวสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% และส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดดอกเบี้ยในการประชุม 18 ก.ย. ส่งผลให้นักลงทุนประเมินความน่าจะเป็นของการปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าลง 0.25% ที่ 87.5% (อ้างอิงจาก FedWatch Tool) ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐฯ ปรับลดลงเหลือ 4.033% (จากวันก่อนหน้าที่ 4.141%)

เงินจะหมุนไปไหน? หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฟื้นตัว อาจไม่ใช่เพราะผลประกอบการ แต่มาจากแนวโน้มการลดดอกเบี้ย หุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวบวกแรงนำโดนกลุ่มเทคโนโลยี โดย Nasdaq +2.64% และ ดัชนีกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ SOX +7.01% ขณะที่ดัชนีหุ้นเล็ก (Russel 2000) +0.51% ทั้งนี้การฟื้นตัวแรงของกลุ่มเทคโนโลยีอาจไม่ได้มาจากผลประกอบการ แต่เราประเมินมาจากแนวโน้มวัฏจักรการลดดอกเบี้ย ที่บวกต่อ Valuation ของหุ้น ทั้งนี้แม้วัฏจักรการลดดอกเบี้ยจะเป็นบวกระยะกลาง-ยาว แต่ในระยะสั้นตลาดอาจผันผวนจากการโยกย้ายเงินลงทุนระหว่างสินทรัพย์ ทั้งนี้ค่าเงินเยนที่แข็งค่าเป็นอีกปัจจัยที่อาจทำให้เกิดการขายทำกำไรสินทรัพย์เสี่ยงในเอเชีย และโยกเข้าลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย ก่อนที่จะกลับมายังหุ้นอีกครั้ง ทำให้หุ้นในกลุ่มที่จะเคลื่อนไหวได้ดี อาจเป็นกลุ่มที่มีลักษณะคล้ายพันธบัตร หรือได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย อาทิ สื่อสาร ไฟฟ้า กองรีทส์ 


 

ภาพรวมกลยุทธ์ คาดกลุ่มคล้ายพันธบัตร และได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง อาทิ ไฟฟ้า รีทส์ เคลื่อนไหวได้ดี อย่างไรก็ตาม ระมัดระวังในกลุ่มที่มีการปรับประมาณการกำไรลง โดยโฟกัสกลุ่มที่โมเมนตัมกำไรยังเป็นขาขึ้น อาทิ สื่อสาร, อาหาร และค้าปลีก // ขณะที่ระวังความผันผวนจากการขายทำกำไรสินทรัพย์เสี่ยง และการโยกเงินเข้าพักในสินทรัพย์ปลอดภัยที่อาจเกิดจากการ unwind yen carry trade 

แนวรับ: 1,310 / แนวต้าน: 1,331 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

หุ้นแนะนำ  (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)

•    CPN* (62) : แนวโน้มผลประกอบการแข็งแกร่ง ได้ประโยชน์จากวัฏจักรการลดดอกเบี้ย และการเติบโตของนักท่องเที่ยว อีกทั้งผลประกอบการที่มีส่วนแบ่งจากการขายไม่ใช่แค่ค่าเช่า ตัดขาดทุน 54 บาท 

•    RATCH* (36) : ผลประกอบการไตรมาส 2-3/67 แข็งแกร่ง จากการรับรู้รายได้จากทั้งโรงไฟฟ้าหินกองและไพธอน ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER ปีนี้ 8 เท่า และปันผล 6%  ตัดขาดทุน 27 บาท 

•    3BBIF* (6.50) : กลุ่มกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ได้ประโยชน์ด้าน Valuation จากดอกเบี้ยขาลง ขณะที่การปรับโครงสร้างในกลุ่มของ GULF-INTUCH เป็นปัจจัยบวกระยะยาวต่อการมีสินทรัพย์ที่จะขายเข้ากองเพิ่มเติม ตัดขาดทุน 5.35 บาท

•    CPALL* (63) : หุ้นเด่นในกลุ่มค้าปลีก คาดผลประกอบการปี 2567 เติบโต 29% ได้ประโยชน์จากท่องเที่ยวและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล  ตัดขาดทุน 55 บาท  
 

 

 

ประเด็นที่น่าสนใจ  

-    "เฟด" คงดอกเบี้ยตามคาดที่ 5.25-5.50% เจอโรม พาวเวล ชี้เงินเฟ้อที่ลดลง ปูทางสู่การปรับลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน 67
-    “แบงก์ชาติญี่ปุ่น” ปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.25% ลดซื้อพันธบัตรเหลือ 3 ล้านล้านเยน/เดือน ม.ค.-มี.ค.69 
-    สภาฯ เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบเพิ่มเติมปี 67 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ทำ ดิจิทัลวอลเล็ต
-    “ธปท.” เร่งหารือ “ธุรกิจบัตรเครดิต” ทบทวนเกณฑ์จ่ายขั้นต่ำ 
-    MAGURO เดินเกมรุกครึ่งปีหลังส่ง 2 แบรนด์ใหม่กระจายฐานลูกค้า-เปิดสาขาใหม่เจาะทำเลบ้านหรู
-    CPN แนะนำ“ซื้อ” เป้า83 บ./ ONEE แนะนำ“ซื้อ”เป้า 6.2บ.

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

2 ส.ค. – Non Farm Payrolls (Jul)

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.