วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ HMPRO ราคาหุ้นได้สะท้อนแนวโน้มชะลอตัวไปค่อนข้างมากแล้ว
Sentiment การจับจ่ายใช้สอยยังคงไม่เอื้อ แต่หวังการฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี
Sentiment การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคยังคงชะลอตัวหลังจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC)
รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) เดือนกรกฎาคม 2567 ที่ 57.7 (ลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567) แสดงใน Figure1 ขณะที่ ยอดขายสาขาเดิม (SSS: same store sales) ของ
HMPRO เดือนกรกฎาคมชะลอตัวต่อเนื่อง (ลดลงราว 5%) หลังจากตัวเลขติดลบที่ -7.3% ใน 2Q67
อย่างไรก็ดี ผู้บริหารยังคาดจะเห็นการฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้ แต่มีการปรับลด guidance การเติบโต
ของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG: same-store-sales growth) จากเดิม +2-3% เป็นทรงตัว YoY
คาดอัตรากำไรขั้นต้นทรง ๆ พร้อมกับมุ่งควบคุมต้นทุน
เป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นปี 2567 ที่เพิ่มราว 20-30bps น่าจะยังท้าทายเป็นเพราะ i) ยอดขายชะลอตัวอาจ
ส่งผลให้มีส่วนลดจากซัพพลายเออร์ลดลง และ ii) สัดส่วนยอดขายจาก Mega home เพิ่มขึ้น ตามการ
ขยายสาขา ทั้งนี้ ร้านค้าประเภท Mega Home รวมอยู่ที่ 28 ร้าน ณ สิ้นงวด 2Q67 เทียบกับ 24 ร้าน เมื่อ
สิ้น 2Q66 และอัตรากำไรขั้นต้นร้าน Mega Home ต่ำกว่าร้าน Home Pro อยู่ราว 3-4ppts ในขณะที่การ
เน้นกลยุทธ house brand (ในทั้งประเภทร้าน Homepro และ Mega Home) คาดช่วยลดควากดดันของ
margin ที่ต่ำลงจากส่วนผสมยอดขายสูงขึ้นจาก Mega Home และยังคาดอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมทรง
ตัวหรืออาจขยับขึ้นราว 10bps ในปี 2567
ไตรมาสที่สามจะชะลอตัวตามฤดูกาล ปรับลดกำไรลงเพื่อปรับตัวตามสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย
เรามองว่า sentiment จะชะลอตัวต่ออีกใน 3Q67 รวมถึงได้รับผลของปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ เราคาดกำไรของ HMPRO น่าจะลดลง QoQ ในไตรมาสที่สามก่อนที่จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่สี่ที่เป็นช่วงยอดขายสูงสุดของปี อย่างไรก็ตาม สภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้เราทบทวนสมมติฐานของเราใหม่ และ ปรับลดกำไรลงราว 7% และ 9% ในปี 2567 และปี 2568 ตามลำดับ (Figure 3) ส่งผลให้กำไรของ HMPRO จะเติบโตอยู่ที่ 4% ในปี 2567 และ 7% ในปี 2568
Valuation & Action
เราปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 จาก 13.00 บาทเป็น 10.70 บาท อิงจาก PER ที่ 21.0x (ค่าเฉลี่ยใน
อดีตระหว่างหุ้นกลุ่มนี้ในประเทศและต่างประเทศ -2.0 S.D) ขณะที่ ราคาหุ้น HMPRO ปรับตัวลดลงราว 33% ตั้งแต่ต้นปีและราคาหุ้นปิดล่าสุดเทรด PE ที่ 16.1X (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 7 ปี -2.0 S.D) ณ ราคานี้น่าจะสะท้อนความกังวลผลการดำเนินงานอ่อนตัวไปมากแล้ว ทั้งนี้ ราคาปิดหุ้นล่าสุดยังเหลือ upside จากราคาเป้าหมายใหม่ของเราอยู่ราว 31% เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
Risks
เศรษฐกิจชะลอตัวลง ขยายสาขาได้น้อยกว่าที่วางแผนเอาไว้ ราคาพืชผลอ่อนแอ ภัยธรรมชาติ สินค้า
ค้างสต็อกเป็นจำนวนมาก.
