วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง EU Inflation
ทางเทคนิค คาด SET Index ปรับขึ้นในลักษณะ Sideways Up แนวต้าน 1,330/1,333 จุด แนวรับ 1,314 จุด (EMA 50 วัน)/1,310 จุด ภาพระยะกลาง รูปแบบ Chart อยู่ในทิศทางขาลง กรอบ 1,250-1,338 จุด
ส่วนในระยะสั้น ดัชนีฯ เคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น (ทา Higher Low และ Higher High ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2) พร้อมสามารถปิดเหนือ Gap 1,310.52 จุด ที่เปิดไว้เมื่อวันที่ 2 ส.ค.) โดยมีเป้าหมายขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิม 1,333 จุด (อาจพิจารณาเป็นจุดขายทำกำไร หรือซื้อเพิ่มหากดัชนีฯ สามารถสร้าง Break Away Gap รอบใหม่ได้)
ประเด็น Event สำคัญวันนี้
US: 2Q24E Earnings Results จับตารายงานผลกำไร Lowe’s Companies 2Q24E คาด EPS USD3.97 Vs Previous USD4.56
US: พรรคเดโมแครตประชุมใหญ่ประจำปี ที่ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ และจะมีการประกาศตัว นางกมลา แฮริส เป็นตัวแทนชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐฯอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 สค.
TH: แนวโน้มกนง. คงดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 21 ส.ค. มีความเป็นไปได้สูงขึ้น หลังจากสภาพัฒน์ฯ วานนี้ ประกาศปรับเพิ่มประมาณการ 2024E GDP Growth สูงขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.3-2.8% (ค่ากลาง 2.55%) จากเดิม 2-3% (ค่ากลาง 2.5%) โดยปรับเพิ่มการลงทุนภาครัฐฯปรับตัวดีขึ้น เป็น -0.7% YoY (Vs เดิมคาด -1.8% YoY) แต่ปรับลดการลงทุนภาคเอกชนลดลงเป็น 0.3% YoY (เดิม 3.2% YoY) ส่วนการบริโภคภาคเอกชนคาดคงเดิมที่ +4.5% YoY และการบริโภคภาครัฐฯ คงเดิม +1.7% YoY ขณะที่ดุลการค้าปรับสูงขึ้น เป็น USD15.5 bn. (เดิม USD10.5bn.)
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ
CH: Loan Prime Rate 1Y/5Y คาดเท่าเดิม 3.35%/3.85% โดยคาดว่าจะอยู่ที่ระดับเดิม หลังจาก PBOC ปรับลด 10 bps ในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นสินเชื่อและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
Australia: RBA Meeting Minutes หลังจากธนาคารกลางมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายเท่าเดิม 4.35% เป็นครั้งที่ 6 ในการประชุมล่าสุด เพราะกังวลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อมีโอกาสสูงกว่าระดับเป้าหมาย 2-3% ก่อนถึงกลางปี 2026 แต่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงนโยบายดอกเบี้ยตาม Data Dependent
EU Inflation Rate (final) เดือน ก.ค. คาด 0% MoM, +2.6% YoY (Vs เดือน มิ.ย. +0.2% MoM, +2.5% YoY) และ Core Inflation Rate (final) เดือน ก.ค. คาด 2.9% YoY (Vs เดือน มิ.ย. +2.9% YoY) โดยแนวโน้มเงินเฟ้อที่ชะลอลงจะเป็นผลบวกต่อ ECB ที่มีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยลงได้อีก 2 ครั้งในปีนี้
กลยุทธ์ลงทุน แนะนำหุ้นที่มีประเด็นบวก ได้แก่ SCB PTT GFPT
Strategic daily picks
SCB ปิด 106.50 บาท/แนวรับ 101.50 บาท แนวต้าน 111.00 บาท
แนวโน้มกำไรระยะยาวคาดว่ายังรักษาการเติบโตได้ในระดับปานกลาง ด้วยประมาณการกำไรต่อหุ้นเติบโตเฉลี่ยปีละ 6.0% ในปี 2024-26E จากแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจในครึ่งปี 2024 ประกอบกับแนวโน้มการตั้งสำรองลดลง หนุนจากปรับกระบวนการการพิจารณาสินเชื่อของ CardX โดย KTX ประเมินมูลค่าเหมาะสม 12M FWD ที่ 117.44 บาท
PTT ปิด 34.50 บาท/แนวรับ 32.75 บาท แนวต้าน 36.00 บาท
2Q24 มีกำไรสุทธิ 3.55 หมื่นล้านบาท (+76.4% YoY) ตาม EBITDA ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำสุทธิภาษีตามสัดส่วนของ PTT เป็นกำไรประมาณ 5.4 พันล้านบาท โดยหลักมาจากกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้ PE LNG ของ PTTLNG และกำไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้ของ GC และ TOP พร้อมจ่ายเงินปันผลในงวด 6M24 ที่ 0.80 บาท/หุ้น ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 37.67 บาท
GFPT ปิด 12.50 บาท/แนวรับ 12.20 บาท แนวต้าน 13.20 บาท
GFPT ปรับเป้าหมายปี 2024 เพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 12.5%-13.5% (จากเดิม 11.5%-12.5% โดย 1H24=13.4%) และคงเป้ายอดขายโต 3-5% (1H24 =0%) และค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อยอดขาย 8.0%-8.5% (1H24=8%) โดย KTX ประเมินมูลค่าเหมาะสม 12M FWD ที่ 13.38 บาท