วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ RBF คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปใน 2H67F
RBF ปรับลดเป้าอัตราการเติบโตของยอดขายปีนี้ลงเหลือ 5%-10% YoY จากเดิม 10%-15% YoY (เราใช้สมมติฐานที่ 8%) เนื่องจากยอดขายในจีนลดลง นอกจากนี้ ราคาขายสารแช่อาหารที่ลดลงในประเทศอินเดียยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ยอดขายอ่อนแอใน 1H67
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าสถานการณ์ด้านราคาจะทรงตัว ในขณะที่คาดว่าปริมาณยอดขายจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง ทั้งนี้ RBF หาลูกค้า QSR ใหม่ได้เพิ่มขึ้นในประเทศปากีสถาน, บังกลาเทศ และ อังกฤษ ในขณะที่ลูกค้าในรัสเซียยังอยู่ในกระบวนการทดสอบสินค้าอยู่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยอดขายที่จีนมีสัดส่วนสูงในปีที่แล้ว ดังนั้น จึงยังต้องอาศัยเวลา (อาจจะนานกว่าสองปี) กว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าใหม่จะมากพอที่จะมาชดเชยยอดขายในจีนที่ลดลงได้
เราคาดว่ายอดขายในงวด 2H67F จะเพิ่มขึ้น HoH โดยคาดว่ายอดขายจะยังลดลง YoY ใน 3Q67F แต่จะเพิ่มขึ้น QoQ จากการเริ่มส่งสินค้าให้กับลูกค้าใหม่ในปากีสถาน และ ยอดขายในอินเดียที่เพิ่มขึ้น เราคาดว่ายอดขายในประเทศน่าจะได้อานิสงส์จากกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ส่งออกที่ยังคงแข็งแกร่ง ในขณะเดียวกันบริษัทจะวางจำหน่ายสินค้าใหม่ น้ำหวาน Hello Boy’s (แบบซอง) ในร้าน 7-Eleven ช่วงต้นเดือนกันยายนนี้
GPM อาจจะไม่ดีขึ้นมากนักเพราะ product mix
เราคาดว่า GPM อาจจะยังต่ำในงวด 2H67F เพราะ product mix เนื่องจากยอดขายในอินเดีย (margin ต่ำ)
เพิ่มขึ้น ในขณะที่ยอดขายในจีนที่ลดลง (ในกลุ่มวัสดุแต่งสีกลิ่นรส) ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ GPM ลดลง ในขณะเดียวกัน RBF กำลังพยายามเพิ่มยอดขายสินค้าที่ margin สูง อย่างเช่นวัตถุแต่งกลิ่น (fragrant) ในตลาดไทย และ อินโดนีเซีย เราคาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายจะสูงกว่าสมมติฐานปีนี้
ของเราที่ 20% เพราะบริษัทสร้างทีมขายในต่างประเทศ และ จะมีค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่เกี่ยวข้องกับ
สินค้าใหม่ ทั้งนี้ โรงงานใหม่ในอยุธยาน่าจะเป็นปัจจัยบวกกับ RBF ในปีหน้า เพราะบริษัทคาดว่าสิทธิประโยชน์ทางภาษีจะมีน้ำหนักมากกว่าค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นปีละ 30 ล้านบาท
Valuation & action
เรายังคงคำแนะนำซื้อ RBF เพราะ ในขณะที่คาดว่าการฟื้นตัวของยอดขายในต่างประทศ และ ยอดขายใน
ประเทศที่เพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนกำไรในงวด 2H67F ทั้งนี้ หลังจากช่วงที่ผ่านมาผลประกอบการโตต่ำกว่าที่
คาดไว้เพราะยอดขายในจีนพลาดเป้า RBF ได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ไปเน้นเพิ่มยอดขายในตลาดอื่นแทน และ
ได้ลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ เรายังคงราคาเป้าหมายปี 2568 เอาไว้ที่ 10.80 บาท อิงจาก PER
ที่ 27x (adjusted PER เฉลี่ยระยะยาว)
Risks
ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น, ต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้น และ เศรษฐกิจถดถอย