วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ภาพรวมยังแป็นบวก การเมืองที่เริ่มชัดเจน  

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ภาพรวมยังแป็นบวก การเมืองที่เริ่มชัดเจน  

คาด Key ides ของคุณทักษิณ จะเป็นบวกต่อ outlook ตลาดหุ้นไทย วานนี้คุณทักษิณ มีการแถลงในงาน The vision Thailand 2024 โดยโทนสำคัญ คือ มุมมองเศรษฐกิจ, นโยบายที่ควรทำเพื่อกระตุ้น และแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยวิสัยทัศน์ที่สำคัญ

ได้แก่ 1) โครงการ Digital wallet ยังคงดำเนินต่อไป โดยจะให้กับกลุ่มเปราะบางก่อน, 2) มีความเห็นว่าธนาคารพาณิชย์ควรลดเงินนำส่งกองทุน FIDF จากเดิม 0.46% เหลือ 0.23%  เพื่อให้ธนาคารนำเงินไปบริหารแก้หนี้ครัวเรือน และหนี้สินส่วนบุคคล,  3) เพิ่มความดึงดูดด้านการท่องเที่ยว อาทิ การปรับปรุง และพัฒนาสนามบิน และการสร้าง entertainment complex แต่พยายามจำกัดขนาดของคาสิโน เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย, 4) เพิ่มการสร้างปัจจัยเชิงโครงสร้างพื้นฐานให้มากขึ้น, 5) ผลักดันเศรษฐกิจใต้ดิน ให้เข้ามาอยู่ในระบบภาษี (Formal Economy) ซึ่งจะช่วยให้อัตราการเติบโตของ GDP สูงขึ้น และ 6) สนับสนุนให้ต่างชาติซื้อที่ดิน โดยการเช่าระยะยาวต่อกรมธนารักษ์ แม้ว่าอดีตนายกรัฐมนตรีจะไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการในรัฐบาลใหม่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความคิดของของคุณทักษิณอาจมีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายของพรรคเพื่อไทย คาดว่าจะมีการยืนยันและระบุความสำคัญของนโยบายข้างต้นในแถลงการณ์ของนโยบายต่อรัฐสภาในต้นเดือนกันยายน โดยรวมแล้ว เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มตลาดหุ้น โดยเฉพาะในภาคการธนาคาร การเงิน และการพาณิชย์ หุ้นเด่นที่เราคิดว่าได้ประโยช์ ได้แก่ BBL, MTC, CPALL, AOT และ CK / สำหรับการเก็งกำไร อาจมองไปยังบริษัทที่มีผลประกอบการอ่อนแอในภาคสินเชื่อรายย่อย เช่น SAWAD และ KKP / สำหรับกลุ่มขนส่งมวลชน แนวคิดในการเวนคืนสัมปทานอาจสร้างความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นองของธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะเป็นลบกับ BTS และ BEM

โอกาสสูงที่จะเข้าสู่ปกติของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ-ไทย เราประเมินมีโอกาสค่อนข้างสูงที่ กนง. อาจคงอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนถึงสิ้นปี 67 ในทางกลับกัน Fed มีโอกาสสูงเช่นกันที่จะเริ่มเข้าสู่เฟสของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของไทย และสหรัฐฯ แคบลง 

 

ซึ่งเรามองว่าน่าจะสามารถช่วยบรรเทาแรงขายของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทยได้ สำหรับหุ้นที่คาดจะได้อานิสงส์เชิงบวก เรายังคงชอบกลุ่มการเงิน อาทิ MTC ขณะที่กลุ่มธนาคารเราคาดจะยังดีได้ต่อเนื่อง จากเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในแนวโน้มการฟื้นตัว และโอกาสที่ กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยไม่สูงนัก หรืออาจปรับลดในระดับที่ไม่มากอย่างมีนัย เราชอบ BBL, KBANK   

ภาพรวมกลยุทธ์ GDP ที่ดีกว่าคาด และแรงส่งจากเสถียรภาพการเมือง เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มการเงิน ทั้งธนาคารและไฟแนนซ์ (เราชอบ KBANK, BBL, MTC) เรายังคาดกลุ่มคล้ายพันธบัตร และได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง อาทิ ไฟฟ้า รีทส์ แกร่งกว่าตลาด และใช้จังหวะผันผวนสะสมหุ้นที่โมเมนตัมกำไรยังเป็นขาขึ้น อาทิ สื่อสาร, อาหาร และค้าปลีก // กลุ่มท่องเที่ยวน่าสนใจจากการเข้าสู่ high season เราชอบ AOT, ERW, SPA

แนวรับ: 1,332 / แนวต้าน : 1,351 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

หุ้นแนะนำ  (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)

•    BBL* (141) : การคงดอกเบี้ยของ กนง. ขณะที่ต้นทุนการเงินลดลง และ GDP มีโมเมนตัมที่ดีขึ้น เป็นภาวะที่บวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร ตัดขาดทุน 135 บาท  

•    EGCO* (116) : ราคาหุ้นตอบรับผลประกอบการที่อ่อนแอจากการตั้งสำรองโครงการผลิตไฟฟ้าที่ต่างประเทศไปแล้ว ขณะที่ปัจจุบัน ซื้อขายด้วย PER 8x, PBV 0.46x และให้ปันผล 6.72%   ตัดขาดทุน 93 บาท

•    MTC* (48) : ผลประกอบการไตรมาส 2/67 ออกมาแข็งแกร่ง การตั้งสำรองอย่างเข้มข้นทำให้ผลประกอบการน่าจะผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ตัดขาดทุน 43 บาท 

•    CPN* (61) : ผลประกอบการไตรมาส 2/67 แข็งแกร่ง ตามการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการเปิดโครงการใหม่ ตัดขาดทุน 57 บาท 
 

 

 


 

ประเด็นที่น่าสนใจ  

-    "ทักษิณ" โชว์สารพัดไอเดียฟื้นเศรษฐกิจ แฮร์คัทหนี้ชาวบ้าน-แจกเงินหมื่น-ยกธุรกิจใต้ดินขึ้น
-    “ซีพี ออลล์” ขายหุ้นกู้ได้ตามเป้า 13,000 ล้านบาท
-    ดัชนี PMI รวมภาคผลิต-บริการสหรัฐร่วงต่ำสุดรอบ 4 เดือนในส.ค
-    PTG ขยับเพิ่มเป้ายอดขายน้ำมันปีนี้โต 10-15%
-    STEC แนะนำ ถือ เป้า 9.20 บาท/ TFG แนะนำ ซื้อ เป้า 5.80 บาท

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

26 ส.ค. – TH Export (Jul)

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ภาพรวมยังแป็นบวก การเมืองที่เริ่มชัดเจน   วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ภาพรวมยังแป็นบวก การเมืองที่เริ่มชัดเจน