วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BH Margin แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม
หลังจากที่ผลการดำเนินงานใน 1H67 ออกมาน่าพอใจโดยมีกำไรสุทธิ 3.92 พันล้านบาท (+17.6% YoY) เรามองบวกกับแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทใน 2H67F เนื่องจาก
i) ผู้ป่วยจากคูเวตมีแนวโน้มจะกลับมาใช้บริการ หลังจากที่ลดลงไปถึง 66.2% YoY ใน 1H67 เพราะผู้บริหารเห็นสัญญาณบวกจากการที่ผู้ป่วยในภาครัฐบินมาใช้บริการของโรงพยาบาล ซึ่งเมื่ออิงจากสถิติการดำเนินงานของ BH รายได้สุทธิจากผู้ป่วยชาวคูเวตลดลง 58.4% YoY ใน 1Q67 และ 74.5% ใน 2Q67 เราคิดว่าจะเห็นภาพแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้นใน 3Q67 ซึ่ง BH จะเป็นหนึ่งในทางเลือกของรัฐบาลคูเวต
ii) รายได้จากผู้ป่วยต่างชาติที่สูงสุด 5 ประเทศในงวด 1H67 มาจากกาตาร์ (+51.8% YoY), บังกลาเทศ
(+30.8% YoY), โอมาน (+24.9% YoY), จีน (+23.5% YoY) และสหรัฐ (+15.8% YoY) ทั้งนี้ รายได้จาก
ผู้ป่วยต่างชาติคิดเป็น 66% ของรายได้รวมจากธุรกิจโรงพยาบาล
iii) คุมสัดส่วน SG&A/รายได้อย่างมีประสิทธิภาพมาหลายไตรมาสแล้ว เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนของ BH เราพบว่า บริษัทคุมค่าใช้จ่ายได้ดีหลัง COVID-19 โดยสัดส่วน SG&A/รายได้ลดลงจาก 18%-30% ในช่วงปี 2562-65 เหลือ 15.5%-17.5% ในช่วงปี 2566-1H67 ซึ่งช่วยให้โมเมนตัมผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทเป็นบวก นอกเหนือไปจากอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งขึ้นจนทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 52.1% ใน 2Q67
คาดว่า 3Q67F จะทำสถิติสูงสุดใหม่
ถึงแม้ว่า 2Q67 จะเป็นช่วงที่มักจะแผ่วตามฤดูกาล แต่ผลการดำเนินงานของ BH ยังออกมาน่าพอใจ เราคาดว่าผลประกอบการของ BH ใน 3Q67 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจาก i) เป็นช่วงหน้าฝนในประเทศไทย และ ii) การกลับมาของผู้ป่วยต่างชาติ และ iii) คุมค่าใช้จ่ายได้ดี ซึ่งจะทำให้รายได้และ margin เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ รวมถึงสามารถคุมค่าใช้จ่ายได้ดีด้วย
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2567F ขึ้นอีก 6.0% และ ปี 2568F ขึ้นอีก 7.5%
หลังจากผลประกอบการงวด 1H67 ที่น่าพอใจออกมาแล้ว ทำให้เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้และปีหน้าขึ้นจากเดิม เนื่องจาก i) เราปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้เป็น 51.0% (จากเดิม 50.0%) และปีหน้าเป็น 51.5% (จากเดิม 50.0%) และ ii) ปรับลดสัดส่วน SG&A/รายได้ของทั้งปี 2567-2568F ลงเหลือ 17.0% (จากเดิม 18.0%) ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2567F เป็น 7.83 พันล้านบาท (+12.0% YoY) และ ปี 2568F เป็น 8.34 พันล้านบาท (+6.5% YoY)
Valuation & Action
เรายังคงคำแนะนำซื้อ BH และปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย DCF ปี 2567 เป็น 309 บาท (ใช้ WACC ที่ 8.2%
และ TG ที่ 3%) จากเดิม 300 บาท เรามองว่า BH น่าสนใจเนื่องจาก i) อัตรากำไรที่สูง (อัตรากำไรขั้นต้น
> 50% และ อัตรากำไรสุทธิ > 29%) ii) เติบโตอย่างต่อเนื่อง และ iii) ROE ที่ค่อนข้างสูง (>25%)
Risks
COVID-19 ระบาด, การแทรกแซงของภาครัฐ, เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่