กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ มุมมองและกลยุทธ์ ก.ย. 2567 - ฟื้นตัวต่อ แต่จะเหวี่ยงแรงมากขึ้น
พอร์ตหุ้นแนะนำ ส.ค. เพิ่มขึ้น 3.4% ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของตลาดโดยรวม ในเดือนสิงหาคม 2567 ตลาดหุ้นไทยดีดตัวกลับขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง
โดยในช่วงครึ่งเดือนแรก ดัชนี SET ยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางการเมืองของไทยก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคดีของนายกเศรษฐา ทวีสิน และ คณะรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ตลาดฟื้นตัวกลับขึ้นมาอย่างน่าพอใจหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรเลือกนางสาวแพทองธาร ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ทั้งนี้ การที่สามารถตั้งรัฐบาลได้เร็ว ผนวกกับรายงานข่าวว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคที่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น และ สามารถใช้จ่ายได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น ทำให้หุ้นกลุ่มการบริโภค และการเงินของไทยฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ในขณะเดียวกัน กระแสเงินทุนไหลก็ไหลเข้าเพิ่มขึ้น เพราะเงินบาทแข็งค่าขึ้น 4.6% ในเดือนสิงหาคมสะท้อนถึงแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ Fed และการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ
มุมมองตลาดหุ้น ก.ย. - ยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว แต่น่าจะผันผวนแรงขึ้น
ในเดือนกันยายน เรามองว่าแนวโน้มหลักของดัชนี SET ยังอยู่ในขาขึ้น จากปัจจัยบวกอย่างเช่น i) ความ
คาดหวังต่อนโยบายเศรษฐกิจของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งน่าจะมีโครงการแจกเงินสดซึ่งจะดำเนินการในเดือนนี้ในทันที ii) ความคืบหน้าของการออกกองทุนวายุภักษ์รอบใหม่ iii) จิตวิทยาเชิงบวกในตลาดโลกจากความคาดหมายว่า FOMC จะลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18 กันยายน และส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีกเป็นระลอกไปจนถึงกลางปี 2568 เรามองว่าดัชนี SET มีโอกาสจะขึ้นไปทดสอบระดับจิตวิทยาที่ 1,400 จุดได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังในช่วงครึ่งหลังของเดือนนี้ เพราะตลาดหุ้นสหรัฐอาจจะเผชิญแรงขาย sell-on-fact หลังจากที่ Fed ลดดอกเบี้ยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ และกลับมาจุดประเด็นความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยขึ้นมาอีก
หุ้นแนะนำเดือน ก.ย. CPAXT, CBG*, TFG, AAV* และ GPSC*
เนื่องจากเรายังคงมองแนวโน้มตลาดหุ้นในเชิงบวก แต่ก็คาดว่าจะผันผวนแรงขึ้นด้วยหลังดัชนีฯ ฟื้นตัวแล้ว เราจึงไม่แนะนำหุ้น big-cap โดยทั่วไปสำหรับการเลือกหุ้นในเดือนนี้ แต่แนะนำให้นักลงทุนเลือกหุ้นดังต่อไปนี้แทน
CPAXT: ผู้ประกอบการค้าส่งซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งในกิจการหลักที่จะได้อานิสงส์จากมาตรการแจกเงินสด
1.40-1.50 แสนล้านบาทในเดือนนี้ สำหรับแนวโน้มในระยะยาว นักวิเคราะห์ของเรายังคาดว่ากำไรของ
CPAXT จะโต 31% ในปี 2567 และ 18% ในปี 2568
CBG*: เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่จะได้อานิสงส์จากการบริโภคภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น เราคาดว่ายอดขายใน 3Q67
จะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น และ ii) รายได้จากการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น
จากการเพิ่มยอดขายเบียร์คาราบาวผ่านทั้งช่องทางจัดจำหน่ายทั้งแบบดั้งเดิม และ modern trade
TFG: นักวิเคราะห์ของเรามองบวกกับอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นในทุกหน่วยธุรกิจของ TFG ในขณะเดียวกัน กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นในเวียดนาม และ จำนวนร้านค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นก็น่าจะช่วยหนุนการเติบโตของยอดขายใน 2H67
AAV*: ถึงแม้ว่า 3Q67 จะเป็นช่วงที่ชะลอตัวตามฤดูกาล แต่ราคาหุ้นน่าจะได้แรงหนุนจาก i) การเข้าสู่ช่วง peak ตามฤดูกาลใน 4Q67 และ ii) อานิสงส์จากการแข็งค่าของเงินบาท โดยเรามองว่า AAV เป็นหุ้นที่อ่อนไหวกับค่าเงินมากที่สุดในบรรดาหุ้นทั้งหมดที่ KGI ศึกษาอยู่ ในเชิงของอานิสงส์ที่จะได้จากการแข็งค่าของเงินบาท
GPSC*: ในขณะที่เราคาดว่าผลประกอบการของ GPSC จะไม่น่าตื่นเต้นใน 2H67 แต่เรามองว่ายังมีตัวแปรในตลาด (macro variables) ที่จะช่วยสนับสนุนราคาหุ้นในเดือนนี้อย่างเช่น เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง