วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี NSL เติบโตด้วยการสร้างพันธมิตร
เราเริ่มด้วยการซื้อและเป้าหมายที่ 35 บาท เราคาดว่ากำไรหลักจะเติบโต 57% ในปี FY24F โดยได้รับแรงหนุนจาก: 1) ยอดขายเติบโต 21% ทั้งจาก CPALL (ส่วนแบ่งรายได้ 87%) และแบรนด์ของบริษัทเองที่ลงทุนกับพันธมิตรหลายราย (โดยเฉพาะกับ Bake A Wish)
และ 2) อัตรากำไรขั้นต้นขยายตัว 1.9ppt (เป็น 20.2%) จากการเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่ง เราชอบการเปิดเผยรายได้ของ NSL ผ่านการเผยแพร่ที่กว้างขวางของ CPALL และความสามารถในการสร้างแบรนด์ของตัวเองร่วมกับพันธมิตร
เติบโตไปกับ CPALL
ตั้งแต่ปี 2009 CPALL ได้ทำสัญญากับ NSL (สัญญาจะสิ้นสุดในปี 2031) เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์แซนวิชและเบเกอรี่ภายใต้แบรนด์ของ CPALL (เช่น Ezy Taste) เราคาดว่ารายได้จากกลุ่มนี้จะเติบโต 17% ในปี FY24F (เป็น 5 พันล้านบาท) และเพิ่มขึ้น 13% (เป็น 5.7 พันล้านบาท) ในปี FY25F โดยได้แรงหนุนจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้บริโภคไปสู่อาหารสะดวกซื้อ แม้ว่า NSL จะไม่ได้เป็นเจ้าของแบรนด์ในกลุ่มนี้ แต่ปริมาณธุรกิจจาก CPALL จะทำให้ NSL มีขนาดและประสิทธิภาพด้านต้นทุนในการขยายไปยังกลุ่มอื่นๆ
กระจายแหล่งรายได้ออกจาก CPALL
ตั้งแต่ปี 2023 NSL ได้จัดตั้งพันธมิตร 4 แห่ง (ยกเลิกหนึ่งแห่ง – เป็นต่อ ในเดือนสิงหาคม 2024) เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม เช่น เบเกอรี่จำหน่ายทั้งในรูปแบบค้าปลีกสมัยใหม่และแบบดั้งเดิม สิ่งที่น่าสังเกตมากที่สุดคือ NSL Bake A Wish (สัดส่วนการถือหุ้น 79.99% - BAW) ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ Bake A Wish ร้านทำขนมปังที่มีร้านค้าปลีกของตัวเอง (ปัจจุบันมี 73 แห่ง) นอกจากนี้ BAW ยังขายเบเกอรี่ในร้าน 7-11 ของ
CPALL ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง (เช่น เจอร์รี่ชีสเค้ก) ซึ่งประสบความสำเร็จและเป็นปัจจัยผลักดันให้กลุ่มแบรนด์ของตัวเองเติบโต 250% (เป็น 385 ล้านบาท) ในกลุ่มแบรนด์ของตัวเองในปี FY24F
ความเสี่ยงหลักคือการกระจุกตัวของรายได้กับ CPALL
เราให้ TP ที่ 17.8x FY25F P/E ปัจจุบันซื้อขายที่ 14.3 เท่า FY25F P/E ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว -0.5SD. ความเสี่ยงหลักคือการกระจุกตัวของรายได้ที่มีกับ CPALL.