วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ AEONTS ผลประกอบการ 2Q67F จะดีขึ้นเล็กน้อย
AEONTS ส่งสัญญาณว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q67F (สิ้นสุดเดือนสิงหาคม) จะเป็นเช่นเดียวกับไตรมาสก่อนหน้า โดย NPL เกิดใหม่ยังคงเกือบเท่าระดับเดิม ในขณะที่สินเชื่อยังอยู่ในโหมดหดตัว
เพราะมีการยอดชำระคืนหนี้สูงกว่ายอดขยายสินเชื่อใหม่ โดยคาดว่าสินเชื่อรวมจะลดลงประมาณ 1% QoQ และ 4% YoY ในขณะที่คาดว่า margin จะทรงตัวทั้ง QoQ และ YoY ทั้งนี้ เราคาดว่าสินเชื่อรวมจะหดตัวแม้ว่าสินเชื่อในกลุ่ม CLMV จะขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง เพราะสินเชื่อในประเทศหดตัวลงอย่างหนัก เนื่องจากบริษัทขยายสินเชื่ออย่างระมัดระวัง โดยคาดว่าสินเชื่อบัตรเครดิตจะลดลง 10% YoY และคาดว่าสินเชื่อบุคคล (P-loan) จะลดลง 2% YoY
NPL มีทิศทางลดลงเพราะการขาย NPL ใน 2Q67 และ การ write-off หนี้เสียใน 3Q67
เนื่องจากราคาขาย NPL ในตลาดไม่ค่อยดี AEONTS จึงชะลอการขาย NPL ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งทำให้ NPL พลิกกลับมาสูงขึ้น แต่ในไตรมาสนี้ในที่สุดบริษัทตัดสินใจขาย NPL ออกมาประมาณ 2-3 พันล้านบาท ทำให้สามารถบันทึกกำไรจากการขาย NPL ได้บ้าง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการขายหนี้เสียเผชิญแรงกดดันด้านราคา ดังนั้น กำไรจากการขาย NPL จึงมีแนวโน้มลดลง และ คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 140-150 ล้านบาทใน 2Q67F จากที่มีกำไร 167 ล้านบาทใน 2Q66
คาดว่าผลประกอบการ 2Q67F จะดีขึ้นเพราะ credit cost ลดลง และ กำไรจากการขาย NPL
บริษัทบอกว่ายอดเก็บเงินสดดีขึ้นเล็กน้อยในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2567 แต่กลับมาอ่อนไหว
เพราะภาวะน้ำท่วมในเดือนสิงหาคม ส่งผลให้ credit cost ยังอยู่ในระดับสูง แต่ลดลงจาก 1Q67 เล็กน้อย
โดยเราใช้สมมติฐานว่า credit cost ใน 2Q67F จะอยู่ที่ 8.5% (ลดลงจาก 9.1% ใน 1Q67) ทั้งนี้ เมื่อรวม
กำไรจากการขาย NPL เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 2Q67 จะอยู่ที่ 699 ล้านบาท (+33% QoQ แต่ -11% YoY)
และ คาดว่ากำไรสุทธิในงวด 1H67 จะอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท (-16%) คิดเป็นประมาณ 45% ของประมาณ
การกำไรเต็มปีของเรา
ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2567F เป็น 157.5 บาท (PE 14x)
เราคาดว่า AEONTS จะได้อานิสงส์ทางอ้อมจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจรากหญ้า หลังจากที่รัฐบาลเริ่มดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนตุลาคม โดยผลประกอบการของบริษัทผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและ คาดว่าจะดีขึ้นไปทีละไตรมาส ซึ่งจะเป็นโอกาสให้เข้าเก็งกำไรได้จากแนวโน้มการเติบโตของกำไรในงวด 2H67 เรา re-rate PE เป็น 14x เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มกำไรที่เพิ่มขึ้น และ โมเมนตัมการฟื้นตัวของกำไรจากเศรษฐกิจรากหญ้าในปี 2568F ทำให้ได้ราคาเป้าหมายปี 2567F ใหม่ที่ 157.5 บาท (เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 125 บาท) และ ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ
Risks
เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า, ความเสี่ยงด้านการกำกับดูแลกดดัน yield สินเชื่อ, NPLs เพิ่มขึ้น