วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ติดตามกลไกกองทุนวายุภักษ์ว่าเงินจะเข้าตลาดจริงเพียงไหน?

โดยล่าสุด ตลาดมองความน่าจะเป็นการลดดอกเบี้ย 0.25% ที่ 67% และการปรับลดดอกเบี้ยในระดับ 0.50% ที่ความน่าจะเป็น 33%  ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีสหรัฐฯ ปรับลดลงไปต่ำสุด 3.65% (จากสูงสุด 5.02% ในช่วง ต.ค.66) ทำให้อาจมองว่าตลาดพันธบัตร วิ่งรับข่าวการลดดอกเบี้ยไปล่วงหน้าไกลเกินไป หรือมากไปแล้ว ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เราอาจเห็นแรงขายทำกำไรในหุ้นหรือสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้นได้ 

กองทุนวายุภักษ์อาจไม่ได้บวกต่อตลาดมากอย่างที่คาดการณ์กัน ตลาดหุ้นไทยช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาปรับขึ้น โดดเด่น นอกจากความชัดเจนการเมืองที่เพิ่มขึ้น ปัจจัยสำคัญอีกประการมาจากความคาดหวังของนักลงทุนที่ประเมินเงินจากการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก จากกองทุนวายุภักษ์ จะไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นโดยตรง และผลักดันตลาดในเชิงบวก ซึ่งเราไม่ได้มองบวกขนาดนั้นเนื่องจาก 1) การประกันผลตอบแทนของกองทุน โดยเฉพาะผลตอบแทนปันผลรายปี ในระดับ 3-5% และประกันเงินต้นในกรณีลงทุน 10 ปี ทำให้เงินลงทุนอาจไม่ได้ไหลเข้าลงทุนในหุ้นทั้งหมด 2) เงินทุนที่ระดมทุนได้ 1-1.5 แสนล้านบาท อาจถูกนำไปลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งอาจพิจารณาว่าเป็นการช่วยเหลือกระทรวงการคลังในเรื่องขาดดุลงบประมาณ 3) ลักษณะของธุรกรรมโดยรวมคล้ายการกู้ยืมเงินจากรายย่อย และ NAV ของหน่วยลงทุนประเภท ก ไม่ได้สะท้อน NAV ของกองทุน // ดังนั้นเราแนะนำนักลงทุนติดตามการแถบงข่ายเสนอขายกองทุนวายุภักษ์ช่วงบ่าย 9 ก.ย. เพื่อประเมินเม็ดเงินแท้จริงที่มีโอกาสไหลเข้าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์  

 

 

 

ภาพรวมกลยุทธ์ สำหรับ SET Index การผ่าน 1,365 ทำให้กรอบการเก็งกำไร (trading range) ขยับขึ้นเป็น 1,365-1,430 จุด ยังคาดกลุ่มคล้ายพันธบัตร และได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง อาทิ ไฟฟ้า รีทส์ แกร่งกว่าตลาด และใช้จังหวะผันผวนสะสมหุ้นที่โมเมนตัมกำไรยังเป็นขาขึ้น อาทิ สื่อสาร, อาหาร และค้าปลีก // กลุ่มท่องเที่ยวน่าสนใจจากการเข้าสู่ high season เราชอบ AOT, ERW, SPA 

แนวรับ: 1,405 / แนวต้าน : 1,437 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

หุ้นแนะนำ  (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)

•    CBG (72) : คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 ฟื้นตัว จากยอดขาย Energy drink ที่ดีขึ้น และคาดได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ ตัดขาดทุน 67.5 บาท
•    EGCO* (129) : ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ได้อานิสงค์จากธุรกิจในต่างประเทศ และการแข็งค่าของเงินบาท บวกต่อ FX Gain ตัดขาดทุน 115 บาท  
•    CPNREIT* (14) : ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มได้ประโยชน์จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง ตัดขาดทุน 11.70 บาท
•    SAMART* (8) : ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และคาดฟื้นตัวต่อเนื่อง จากการกลับมาของรายจ่ายภาครัฐฯ และการลงทุนด้าน IT/AI  ตัดขาดทุน 6.20 บาท 

ประเด็นที่น่าสนใจ 

-    “พิพัฒน์” ยัน 1 ต.ค. ขึ้นค่าแรงทั่วไทย 400 บาท ชงมาตรการลดผลกระทบนายจ้าง
-    นายกฯ ประชุมครม.นัดพิเศษ สั่งสานต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งรัดเบิกจ่ายลงทุนภาครัฐ
-    สหรัฐเผยจ้างงานนอกภาคเกษตร +142,000 เดือนส.ค. ต่ำกว่าคาดการณ์
-    ขุนคลังสหรัฐฯ มั่นใจเศรษฐกิจยังแกร่ง ชี้จ้างงานชะลอตัว แต่ไม่มีเลย์ออฟครั้งใหญ่
-    ผู้บริหารบริษัทกว่า 90 รายสนับสนุน "แฮร์ริส" เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ
-    ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้น ขานรับสต็อกลดลงมากกว่าคาด

-    "มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย." ยื่นไฟลิ่งขาย IPO ราว 981.48 ล้านหุ้นเข้า SET ขยายลงทุน-คืนหนี้
-    Special Report; The Policies Of Paetongtarn’s Government, กลุ่มค้าปลีก คงน้ำหนัก OVERWEIGHT

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

9 ก.ย. – CN Inflation (Aug) 
11 ก.ย. – US CPI (Aug)
12 ก.ย. – US PPI (Aug)