Daily SET50 Index Futures : บล.เคจีไอฯ แกว่งตัวขึ้น ดาวโจนส์บวกและน้ำมัน WTI บวก

แนวโน้มระยะกลาง

ระยะกลางคาด S50U24 แกว่งตัวขึ้น ระยะสั้นเป็นบวกหลังจากยืนได้เหนือแนวรับ 885 ประเมินแนวรับ 893/885/878/867 และ แนวต้าน 903/912/920/930 หากยืนได้เหนือ 893 อาจแกว่งตัวขึ้นไปแนวต้านที่ 903/912 หากยืนไม่ได้เหนือ 893 อาจแกว่งตัวลงไปแนวรับ 885/878

กลยุทธ์ระยะกลาง (สัปดาห์)

แนะนำเปิด Long สัญญา S50U24 ที่ 893 และปิดสถานะที่แนวต้าน 903/912 โดยให้จุด Stop loss ที่ 888

แนวโน้ม SET50 ฟิวเจอร์สระยะสั้น (ระหว่างวัน)

วานนี้ S50U24 แกว่งตัวขึ้น โดยชะลอลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 898 สลับเด้งฟื้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 904.0 และมาปิดที่ 903.0 โดย S50U24 บวกน้อยกว่าดัชนีส่งผลให้ Basis ระหว่าง S50U24 และ SET50 สู่ระดับ -1.75 จุด

ประเมินสัญญา S50U24 อาจแกว่งตัวขึ้น หากยืนได้เหนือ 903 อาจสลับเด้งขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไป 908/913

กลยุทธ์ระยะสั้น(ระหว่างวัน)**

แนะนำเปิด Long สัญญา S50U24 ที่แนวรับ 903 และปิดสถานะที่แนวต้าน 908/913 โดยให้จุด Stop loss ที่ 898

สำหรับคนที่ได้เปิด Long สัญญา S50U24 ที่ 897.3 เมื่อศุกร์ที่ผ่านมา อาจจะได้ปิดสถานะที่ 902

 

 

 

 

ปัจจัยสำคัญ

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อ SET50

วานนี้ดาวโจนส์ปิดบวก 228 จุด (+0.55%) ปิดที่ 41,622 จุด แต่ดัชนี Nasdaq ปิดลบจากแรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นักลงทุนรอติดตามผลการประชุมเฟดและสัญญาณแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุดตลาดคาดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% ทั้งนี้ Fed Watch Tool เพิ่มน้ำหนักราว 67% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% ในเดือนก.ย. จากวันก่อนหน้าที่ 50% และลดน้ำหนักราว 33% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนก.ย. จากวันก่อนหน้าที่ 50%

ด้านทิศทางราคาน้ำมัน WTI เดือนต.ค.ปิดลบ 1.44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล (+2.1%) มาอยู่ที่ 70.09 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากรายงานของสำนักงานนิรภัยและการบังคับใช้กฏหมายสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางสหรัฐ (BSEE) เปิดเผยว่าการผลิตน้ำมันราว 12% และก๊าซธรรมชาติราว 16% ในอ่าวเม็กซิโกสหรัฐถูกระงับ นอกจากนี้ข้อมูลเศรษฐกิจจีนออกมาน่าผิดหวัง โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกจีนเดือนส.ค. ออกมาแย่กว่าตลาดคาด ถือเป็นปัจจัยลบต่อทิศทางราคาน้ำมัน

ด้านทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ/บาทกลับมาอ่อนค่าลงเล็กน้อย ล่าสุดมาอยู่ที่ 33.32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ปัจจัยที่ให้ติดตามในระยะสั้น

คืนนี้ติดตามยอดค้าปลีกสหรัฐเดือนส.ค. ทั้งนี้ตลาดคาด -0.2%MoM นอกจากนี้ปัจจัยสำคัญที่ให้ติดตาม คือผลการประชุมเฟดในวันพรุ่งนี้ (ทราบผลช่วงเช้าวันพฤหัสบดี) ทั้งนี้ Fed Watch Tool เพิ่มน้ำหนักที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ 1.25% ที่ 44% จากวันก่อนที่ 41.3% และเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ 1.0% ที่ 29.8% ลดลงจากวันก่อนที่ 33.3% รวมทั้งเพิ่มน้ำหนักราว 67% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% ในเดือนก.ย. จากวันก่อนหน้าที่ 50% และลดน้ำหนักราว 33% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนก.ย. จากวันก่อนหน้าที่ 50%