วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ติดตามปฏิกิริยาของนักลงทุนและเงินเยนหลังเฟดลดดอกเบี้ย

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ติดตามปฏิกิริยาของนักลงทุนและเงินเยนหลังเฟดลดดอกเบี้ย

ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณเริ่มวัฏจักรของการผ่อนคลายด้านการเงิน โดยปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของสหรัฐฯมีมติ 11 ต่อ 1 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงลง 0.5% สู่ระดับ 4.75%-5.0% ซึ่งเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี

สำหรับมุมมองดอกเบี้ยของกรรมการรายบุคคล (Dot plot) แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่คาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 1% ภายในสิ้นปี (ลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% สองครั้ง หรือการลดอัตราดอกเบี้ย 0.5% หนึ่งครั้ง) และลดดอกเบี้ยลงอีก 1% ภายในสิ้นปี 2568 / ขณะที่ปรับลด GDP ปีนี้เหลือ 2.0% (จากคาดการณ์เดิม 2.1%) โดยคงปี 68-69 ที่ 2.0% / ปรับคาดการณ์ว่างงานขึ้นเป็น 4.4% (จากเดิม 4.0%) ขณะที่ปี 68 เป็น 4.4% (จาก 4.2%) และปี 69 เป็น 4.3% (จาก 4.1%) // สิ่งสำคัญหลังประชุมคือ นักลงทุนเริ่มเห็นโฟกัสของเฟดเปลี่ยนจากเงินเฟ้อ (ซึ่งเฟดมองกำลังเข้าสู่เป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% อย่างยั่งยืน) มาเป็นการสนับสนุนการจ้างงานสูงสุด 

บวกระยะกลาง-ยาว แต่อาจผันผวนระยะสั้น ติดตามปฏิกิริยาของนักลงทุนและความเคลื่อนไหวของเงินเยน แน่นอนว่าวัฏจักรการปรับลดดอกเบี้ยเป็นบวกต่อวัฏจักรกำไรบจ. และหนุนการให้พรีเมี่ยมการลงทุนที่สูงขึ้น (ผ่านการ re-rating) ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อเนื่องในระยะกลาง-ยาว อย่างไรก็ตามระยะสั้นตลาดอาจผันผวนหรือมีแรงทำกำไรได้ หลังหุ้นจำนวนมากรับปัจจัยบวกล่วงหน้าไประดับหนึ่งแล้ว ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญระยะสั้นที่ต้องติดตาม คือ ความเคลื่อนไหวของเงินเยน หากการลดดอกเบี้ยเร็วทำให้ค่าเงินสหรัฐฯอ่อน และกระตุ้นให้เงินเยนเกิดการแข็งค่าเร็ว เมื่อประกอบกับทิศทางการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จำเป็นต้องตึงตัวมากขึ้นและอาจทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นอยู่แล้ว ปัจจัยผสมทั้งสอง อาจทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่า และกระตุ้นให้สินทรัพย์เสี่ยงผันผวนจากแรงขายเพื่อคืนเงินกู้ยืมสกุลเยน (Unwind Yen Carry Trade) ได้ ทั้งนี้เช้านี้เงินเยนอ่อนค่าลงเป็น 143.7 เยน/ดอลลาร์ฯ (จาก 142.6 เยน/ดอลลาร์ฯ) อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามผลการประชุมและการส่งสัญญาณของ BOJ ในวันที่ 20 ก.ย.นี้

 

 

 

ภาพรวมกลยุทธ์ เลือกเก็งกำไรรายตัว และระวังแรงขายทำกำไรหุ้นธนาคารและสื่อสารหลังใกล้หมดระยะเวลาขอใบอนุญาต Virtual Bank ขณะที่ระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นกลุ่มคล้ายพันธบัตร อาทิ ไฟฟ้า รีทส์ หลังผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อาจดีดตัวจากภาวะขายมากเกิน // อาจเลือกหุ้นที่ผลประกอบการเข้าสู่ช่วง high season อย่างกลุ่มท่องเที่ยว และการแพทย์ เราชอบ AOT, ERW, CENTEL, SPA, VRANDA

แนวรับ: 1,425 / แนวต้าน : 1,445 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

หุ้นแนะนำ  (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)

•    HANA* (43) : เก็งกำไรหุ้น Laggard และอาจฟื้นตัวจากเงินบาทที่มีโอกาสอ่อนค่าทางเทคนิค หลังเงินบาทแข็งค่ามาเร็วเกินไป  ตัดขาดทุน 40.25 บาท
•    AWC* (4.50) : ผลการดำเนินงานไตรมาส 3-4 ได้อานิสงค์จากปัจจัยด้านฤดูกาล ขณะที่บริษัทแสดงความสนใจเข้าร่วมประมูล Entertainment complex ตัดขาดทุน 3.60 บาท  
•    VRANDA* (7) : ผลการดำเนินงานปีนี้ turnaround ได้แรงหนุนจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น การไม่มีขาดทุนของธุรกิจอาหาร และการโอนโครงการอสังหาฯ ตัดขาดทุน 5.30 บาท
•    SAMART* (8) : ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และคาดฟื้นตัวต่อเนื่อง จากการกลับมาของรายจ่ายภาครัฐฯ และการลงทุนด้าน IT/AI  ตัดขาดทุน 6.20 บาท 
 

ประเด็นที่น่าสนใจ 

-    เฟดหั่นดอกเบี้ย 0.50% ตามคาด ส่งสัญญาณหั่นอีก 0.50% ก่อนสิ้นปี 67
-    เฟดหั่นคาดการณ์ GDP สหรัฐสู่ 2.0% ปีนี้ จากเดิม 2.1%
-    EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด
-    สหรัฐเผยตัวเลขเริ่มต้นสร้างบ้านสูงกว่าคาดในเดือนส.ค. 
-    เงินเฟ้อยูโรโซนชะลอตัวลง แตะ 2.2% ในเดือนส.ค. ตามคาด
-    คลัง คาดหนี้สาธารณะปี 68 แตะ 66% มองแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง
-    คลังเล็งออก บอนด์สกุลต่างประเทศ ช่วงไตรมาส 1 ปี 68

 

 

-    SCB ตั้งอดีตผู้ว่าแบงก์ชาติ "วิรไท สันติประภพ" นั่งกรรมการอิสระ
-    ก.ล.ต.กล่าวโทษ “STARK-อดีตผู้บริหาร” กรณีเผยแพร่ข้อความเท็จ ปมฐานะทางการเงิน-ผลดำเนินงาน STARK
-    SCGP แนะนำ ซื้อ เป้า 48 บาท

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

23 ก.ย. – TH New Car Sales (Aug)
25 ก.ย. – TH Exports (Aug)
 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ติดตามปฏิกิริยาของนักลงทุนและเงินเยนหลังเฟดลดดอกเบี้ย วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ติดตามปฏิกิริยาของนักลงทุนและเงินเยนหลังเฟดลดดอกเบี้ย