วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ ได้แรงหนุนจากเงินบาทแข็งค่า หนุน Fund Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตามดัชนีได้รับแรงกดดันจากผู้ว่า ธปท. ชี้ว่าไม่จำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามเฟด แต่ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,447.90 จุด -3.79 จุด -0.26% มูลค่าการซื้อขาย 50,673.11 ลบ. Program Trading -326.41 ลบ. ต่างชาติ +434.81 ลบ. TFEX +1,922 สัญญา ตราสารหนี้ -2,975.36 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 61.29 จุด +0.15% ปิดแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 42,124.65 จุด ได้ปัจจัยบวกจาก FED ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% และอาจลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีนี้
+ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าการประชุม FED ในเดือนพ.ย.อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่าที่ปรับลดในการประชุมเดือนก.ย. เนื่องจากเงินเฟ้ออาจจะอยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ส่วนข้อมูลจาก LSEG บ่งชี้ว่าตลาดคาดการณ์ว่า FED อาจปรับลด อัตราดอกเบี้ยลงรวมทั้งสิ้น 0.74% ภายในสิ้นปีนี้
+ สหรัฐเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและ ภาคบริการเบื้องต้นปรับตัวลงสู่ระดับ 54.4 ในเดือนก.ย. ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน แต่ดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของ ภาคธุรกิจสหรัฐโดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของภาคบริการ ขณะที่ภาคการผลิตอยู่หดตัว
+ เช้านี้ผู้ว่าการ PBOC จัดแถลงข่าวที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักเกี่ยวกับ "การสนับสนุนทางการเงินเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่มีคุณภาพสูง"
+ ยอดจองกองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง" มากกว่ามูลค่าที่ต้องการระดมทุนสูงสุดที่ 1.5 แสนล้านบาท แตะที่ 1.9 แสนล้านบาทโดยมีจำนวนหน่วยลงทุนเสนอขายสุดท้ายที่ 15,000 ล้านหน่วย
+ กรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ค่ายรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริม การใช้ EV ได้ทยอยเข้าตั้งฐานการผลิตภายในไทยคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 80,000 ล้านบาทแล้ว

ปัจจัยลบ

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 63 เซนต์ ปิดที่ 70.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากความกังวลต่ออุปสงค์พลังงานเนื่องจากกิจกรรมภาคธุรกิจของยูโรโซนหดตัวและเศรษฐกิจจีนอ่อนแอ
 

- ผลสำรวจบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนหดตัวลงอย่างรุนแรง เกินคาดในเดือนนี้ ขณะที่อุตสาหกรรมบริการทรงตัว และกิจกรรม การผลิตชะลอตัวลงมากขึ้น
- สหรัฐเตรียมเพิ่มกำลังทหารในตะวันออกกลาง ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ขณะที่กลุ่มฮูตีประกาศให้การสนับสนุนกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ต่อสู้กับอิสราเอล
- ภาคเอกชนกังวลเงินบาทแข็งค่าหนักจาก 37 บาท/ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 33 บาท/ดอลลาร์ กระทบเศรษฐกิจสูญเสียกว่า 1.3 แสนล้านบาท ฉุด GDP 1%

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง หลังเฟดถึงได้เริ่มต้นวงจรผ่อนคลายทางการเงิน ด้วยการปรับลดดอกเบี้ย 0.50% ในสัปดาห์ก่อน ขณะที่ปัจจัยในประเทศได้แรงหนุนจากกองทุนวายุภักษ์ที่มีการจองเต็มทั้งจำนวน 1.5แสนล้านบาท คาดกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,440-1,455 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า : BGRIM GPSC EGCO RATCH TVO TMILL JUBILE SYNEX SIS
• หุ้นได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมหลังน้ำลด : TASCO DOHOME GLOBAL HMPRO DCC DRT TOA DPAINT
• หุ้นได้ประโยชน์จากรัฐบาลใหม่ : CK STEC SEAFCO BJC CPALL CPAXT
• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Fed ลดดอกเบี้ย : SAWAD MTC TIDLOR JMT BGRIM GULF GPSC

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

SEI - บริษัท เอสดีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน)
<MAI/Consumer Product> ราคา IPO 3.10  บาท
ราคา Consensus 5.50 บาท

ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์โดยเป็นทั้งตัวแทนจำหน่ายและให้บริการเครื่องมือทางการแพทย์ โดยบริษัทฯ จัดหาสินค้าเครื่องมือทางการแพทย์จากต่างประเทศและนำเข้าโดยตรงจากผู้ผลิตในต่างประเทศ เพื่อจัดจำหน่ายให้แก่ โรงพยาบาลรัฐบาล และโรงพยาบาลเอกชน โดยบริษัทมีรายได้จาก 3 แหล่ง 1) รายได้จากการขาย 2) รายได้จากการให้บริการ และ 3) รายได้ตามสัญญาเช่าในสัดส่วน 91.2% 4.7% และ 4.1% ตามลำดับ

บริษัทมีรายได้และกำไรสุทธิปี 64-66 อยู่ที่ 374-393 ลบ. และ 16.2-21.9 ลบ. ตามลำดับ โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย CAGR ตลอด 64-66 ปีที่ 2.5% และ 16% ต่อปีตามลำดับ โดยได้แรงหนุนจากปัญหาสินค้าขาดแคลนคลี่คลาย และความต้องการกลับสู่ภาวะปกติก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19 ขณะที่รายได้และกำไร 6M67 หดตัว 7%YoY แต่เติบโต 33%YoY สู่ 199 ลบ. และ 19.9 ลบ. ตามลำดับ เนื่องจากขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าเครื่องมือทางการแพทย์ได้สูงขึ้น

จำนวนหุ้น IPO 50 ล้านหุ้น และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 527 ลบ. ราคา IPO คิดเป็น trailing P/E 19.64 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม MAI/Consumer Product ที่ 26.93 โดยการระดมทุนเพื่อ 1) ใช้ในโครงการร่วมลงทุนกับบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์ และ 2) เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจ

หุ้นมีข่าว

(+) GFPT (Bloomberg Consensus 16.00 บาท) รับอานิสงส์การขนส่งทางทะเลคลี่คลาย หนุนยอดขายทั้งตลาดยุโรป-เอเชียเร่งตัว รวมถึงการบริโภคในประเทศทรงตัวสูง ขณะที่ต้นทุนอาหาร เลี้ยงสัตว์ อยู่ระดับต่ำ คาดมาร์จิ้นทั้งปี 2567 เติบโตราว 12.5% ด้านโบรกฟันธงกำไรสุทธิโตต่อเนื่อง 2 ปี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ADVICE (Bloomberg Consensus - บาท) เผยยอดจอง iPhone 16 พุ่งทะลุเป้า หลังเปิดให้จองล่วงหน้าเพียงไม่กี่วัน มองตลาดไอโฟน-สมาร์ทโฟนคึก เตรียมเร่งขยายสาขา ปักหมุดเปิดครบ 3 สาขา ภายในพฤศจิกายนนี้ พร้อมอัดโปรโมชันกระตุ้นกำลังซื้อโค้งท้ายปีนี้ หนุนผลดำเนินงาน เข้าสู่ไฮซีซัน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SCC (Bloomberg Consensus 270.00 บาท) แจงเหตุเพลิงไหม้บริษัทย่อย TPC ในกลุ่มธุรกิจเคมิคอลส์ จ.ระยอง กระทบยอดขายเพียง 0.04% เท่านั้น พร้อมติดตามและดูแล ความปลอดภัยต่อชุมชนและคุณภาพอากาศอย่างใกล้ชิด (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) EGCO (Bloomberg Consensus 139.00 บาท) ปักหมุด APEX ในสหรัฐฯ เรือธง “พลังงานสะอาด” ตุนโครงการในมือกว่า 211 โครงการ รวม 56,400 เมกะวัตต์ ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานลม-แสงอาทิตย์-ไฮโดรเจน ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ ผู้บริหารมั่นใจ “เอเพ็กซ์” ดันกำลังผลิตพลังงานทดแทนเพิ่มเป็น 30% ภายในปี 73 (ที่มา ข่าวหุ้น)