กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ เทรดกรอบแคบ หลังตลาดหุ้นรับรู้ปัจจัยบวกไปมากแล้ว

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ เทรดกรอบแคบ หลังตลาดหุ้นรับรู้ปัจจัยบวกไปมากแล้ว

ตลาดหุ้นไทยน่าจะยังพักสร้างฐานต่อในสัปดาห์นี้ ในสัปดาห์ที่แล้ว (23-27 กันยายน) ตลาดหุ้นไทยพักตัวตามมุมมองรายสัปดาห์ของเราเนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้

ประการแรก ราคาหุ้นไทยสะท้อนปัจจัยต่าง ๆ ไปมากแล้ว ทั้งปัจจัยภายใน อย่างเช่น การดำเนินมาตรการกระตุ้นการบริโภคเฟสแรก และ กองทุนวายุภักษ์ รวมถึงปัจจัยภายนอก อย่างเช่นความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นจากความคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเป็นภาวะ soft-landing

ประการที่สอง หุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวกับวัฏจักรเศรษฐกิจโลก และ กลุ่มพลังงานเผชิญกับแรงขาย เนื่องจากราคาน้ำมันดิบลดลงในช่วงหลายวันมานี้ ในขณะที่สถานการณ์ของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โดยเฉพาะสาย polypropylene เผชิญความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะสินค้าล้นตลาดจากสินค้าของจีน

สำหรับในสัปดาห์นี้ (30 กันยายน – 4 ตุลาคม) เราคาดว่าดัชนี SET จะยังคงแกว่งตัวในกรอบ โดยมองว่าตลาดมีทางขึ้นจำกัดในระยะสั้น เนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้

ข้อแรก ดัชนีหุ้นไทยขยับขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และ เคลื่อนไหวอยู่ใกล้ ๆ กับระดับดัชนีเป้าหมายของเราที่ 1,460 แล้ว โดยนักลงทุนได้ตอบรับปัจจัยบวกต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้นไปมากแล้ว และจำเป็นต้องมีปัจจัยกระตุ้นที่แข็งแกร่ง ถึงจะสามารถขึ้นต่อได้จากระดับปัจจุบัน

ข้อที่สอง ถึงแม้ว่ากองทุนวายุภักษ์จะมีกำหนดเริ่มเข้าลงทุนในหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ (1 ตุลาคม) เรามอง
ว่ากองทุนนี้น่าจะช่วยจำกัดความเสี่ยงทางลงของตลาด มากกว่าจะดันให้ตลาดวิ่งขึ้นไปได้อย่างมีนัยสำคัญ

 

 

ติดตามข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน, ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และ กระแสข่าวมาตรการกระตุ้น
เศรษฐกิจไทยเฟสใหม่

ปัจจัยต่างประเทศ: นักลงทุนควรติดตาม i) ข่าวเรื่องรัฐบาลจีน และ PBoC จะออกมาตรการกระตุ้น
เศรษฐกิจ และ ตลาดเงินเพิ่มเติม ii) ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในเดือนกันยายน อย่างเช่น ISM
manufacturing (1 ตุลาคม), ISM ภาคบริการ (3 ตุลาคม) และ รายงานการจ้างงาน (4 ตุลาคม) นอกจากนี้
การที่ Fed ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนอัตราดอกเบี้ยอยู่ในขาลง ดังนั้นสัญญาณเศรษฐกิจที่เป็น soft landing
จะเป็นประเด็นสำคัญในการรักษาจิตวิทยาเขิงบวกของตลาดการเงินโลก

ปัจจัยในประเทศ: นักลงทุนควรติดตามกระแสข่าวเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2568 โดยในสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงการคลังเปิดเผยมาตรการกระตุ้นการบริษัทเฟสที่สอง โดยอาจจะแจกเงินดิจิทัล 5,000 บาทให้กับประชาชนที่เข้าเกณฑ์ได้รับเงิน 26 ล้านคน ทั้งนี้ วงเงินล่าสุดที่รัฐบาลจะแจกในโครงการดิจิตอลวอลเล็ตนั้นน้อยกว่าแผนเดิมที่วางไว้ เพราะรัฐบาลต้องสงวนงบประมาณไว้เพื่อดำเนินมาตรการอื่น ๆ ในปี 2568

แนวโน้มหลักของตลาดยังคงเป็นการฟื้นตัว เรายังคงเน้นหุ้นตามธีมการลงทุนหลักของเรา

ถึงแม้เราจะคาดว่าตลาดจะยังพักฐาน แต่เรายังคงชอบหุ้นในธีมการลงทุนหลักของเรา ซึ่งได้แก่กลุ่มการบริโภค, กลุ่มที่อ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ย และ กลุ่มที่จะได้อานิสงส์จากการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งได้แก่ CPALL*, CBG*, AAV* และ GPSC* นอกจากนี้ เรายังชอบหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ผลประกอบการมีแนวโน้มจะทำสถิติสูงสุดใหม่ใน 3Q67 อย่างเช่น BH* เรามองเป็นกลางกับแนวโน้มตลาดในสัปดาห์นี้ และ คาดว่า upside จะมาจากกระแสเงินทุนไหลเข้าที่แข็งแกร่งเกินคาด และ กองทุนวายุภักษ์เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นในปริมาณที่สูง